นิวยอร์ก เบรกนั่งกินอาหารในร้าน หลังพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่

(2 ก.ค. 2563) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อที่ 1 ก.ค. 63 บิล เดอ บลาซิโอ (Bill de Blasio) นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นครนิวยอร์กจะปรับเลื่อนแผนอนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารภายในร้านอาหารออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังหลายรัฐของสหรัฐฯ ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เชื่อมโยงกับร้านอาหารและบาร์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการนั่งรับประทานอาหารในร้านยังคงเป็นปัญหา จึงไม่สามารถอนุญาตให้ชาวนิวยอร์กนั่งรับประทานอาหารภายในร้านได้ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม นครนิวยอร์กเข้าสู่ระยะที่ 3 ของการเปิดเศรษฐกิจเมื่อวันจันทร์ (29 มิ.ย. 63) ซึ่งเป็นระยะที่อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารภายในร้านได้ตามกลยุทธ์การเปิดเศรษฐกิจของรัฐนิวยอร์ก ด้าน แอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ยืนยันว่า ช่วงเวลาเช่นนี้ยังไม่เหมาะสมที่นครนิวยอร์กจะอนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในร้านจนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไป ขณะเดียวกันชายหาด 8 แห่งในนครนิวยอร์ก ได้กลับมาเปิดให้ประชาชนเข้ามาว่ายน้ำได้อย่างเป็นทางการ เมื่อวานนี้ (1 ก.ค. 63) โดยมีเจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ขณะที่สระว่ายน้ำกลางแจ้ง 15 แห่ง จะกลับมาเปิดให้บริการภายในวันที่ 1 ส.ค. 63 แม้ว่าขณะนี้ตัวชี้วัดสำคัญของโรคโควิด-19 ในเมืองและรัฐนิวยอร์กจะมีความเสถียร แต่คัวโมยังมองเห็นถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์ในรัฐอื่นๆ ของประเทศกำลังเลวร้ายลง และประชาชนไม่ยอมปฏิบัติตามข้อปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคม ข้อเท็จจริงคือประชาชนกำลังละเลยข้อปฏิบัติ เห็นได้จากภาพตามถนนในย่านแมนฮัตตัน “เรากำลังอยู่ท่ามกลางภาวะวิกฤตระดับชาติ เนื่องจาก 35 รัฐของประเทศมีแนวโน้มตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น” เขาเผย พร้อมกล่าวตำหนิโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ผลักดันให้เปิดเศรษฐกิจและไม่ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นเรื่องไวรัส ความจริงจะชนะทุกสิ่ง ขณะนี้สหรัฐฯ กำลังเผชิญความลำบากเพราะประธานาธิบดี ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องเปลี่ยนแผนการและยอมรับความผิดของตัวเอง” แอนดรูว์ คัวโม กล่าวทิ้งท้าย