หัวอกพ่อทนไม่ไหว เห็นลูกถูกทำร้ายรีบเเจ้งปวีณาขอความเป็นธรรม ซ้ำร้ายเเม่บอกลูกสาวซนเอง
คดีนี้ พ่อเเละเเม่ อายุ 34 ปี เเยกทางกัน เเม่มีสามีใหม่ อายุ 17 ปี เเต่มีข้อตกลงกันว่าเเม่ดูเเลลูกวันจันทร์ -ศุกร์ ส่วนพ่อ ดูเเลเเค่วัน เสาร์ -อาทิตน์เท่านั้น
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ช่วงปลายเดือน พ.ค 63 ตนได้ไปรับลูกมาอยู่ด้วยเห็นลูกมีอาการผิดปกติซึมเศร้าไม่ร่าเริง และที่ผิวหนังบริเวณต้นขาหลังทั้ง 2 ข้างและอวัยวะเพศมีบาดแผลพุพองจากการถูกไฟลนทั้งรอยเก่าและรอยใหม่ พอถามลูกก็ไม่ยอมบอกว่าไปโดนอะไรมา ตนจึงคิดว่าลูกอาจจะเล่นซนเกินไป 
ภาพจากอีจัน
เเต่พ่อไม่ได้เจอเเค่ครั้งเดียวเท่านั้น วันที่ 5 มิ.ย.63 ไปรับลูกสาวอีกครั้ง ก็พบว่าบริเวณรอยเดิมที่เป็นแผลใกล้อวัยวะเพศยังไม่หายและมีแผลใหม่เกิดขึ้นเพิ่มอีก จึงถามผู้เป็นเเม่ อ้างว่า ลูกสาวซุกซนไปนั่งทับยากันยุงจนเป็นแผล ซึ่งพ่อคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้
ภาพจากอีจัน
"ผมใช้เวลาถามลูกอยู่นานกว่าลูกจะยอมบอกว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นเพราะถูกพ่อเลี้ยง ใช้ไฟแช็คลนต้นขาและอวัยวะเพศ ตอนที่นอนอยู่ในห้องกัน 2 คน เวลาที่แม่ไม่อยู่ เพราะโมโหที่ลูกสาวปัสสาวะรดที่นอน ตอนที่ลูกถูกทำรู้สึกปวดแสบปวดร้อนแต่ต้องอดทน เพราะพ่อเลี้ยงข่มขู่ห้ามบอกใคร" หลังทราบเรื่อง พ่อไม่ได้ให้ลูกสาวไปเจอเเม่อีกเลย เเละพาเข้าเเจ้งความ ที่สภ.ศรีประจันต์
ภาพจากอีจัน
ด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ภัคภณ เล็กท่าไม้ ผกก.สภ.ศรีประจันต์ ขอให้พนักงานสอบสวนจัดสอบวิชาชีพน้องเมย์ และติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ซึ่งพ.ต.อ.ภัคภณ ได้สั่งการพนักงานสอบสวนประสานนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และอัยการ ร่วมสอบสหวิชาชีพเด็ก ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานผลตรวจร่างกายเพื่อขอเรียกและหมายจับ พร้อมกันนี้นางปวีณายังได้ประสานนางอุรัยวรรณ์ แสงแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าช่วยเหลือในด้านการฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็ก และให้พ่อเด็กฟ้องร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อขอปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว โดยทางมูลนิธิปวีณาฯ และบ้านพักเด็กฯ สุพรรณบุรีจะติดตามการช่วยเหลือต่อไป