ฝืนเปิดต่อไม่ได้! เต็นท์ผาหัวสิงห์ภูทับเบิกถูกรื้อเรียบ

กรมป่าไม้สั่งรื้อ! เต็นท์ผาหัวสิงห์ภูทับเบิก ยึดคืนพื้นที่ธรรมชาติ เป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมกันของทุกคน

วันนี้(10 ก.ค. 63) พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ศปป.4 กอ.รมน. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ อีกครั้ง หลังมีกระแสถกเถียงกันในโลกโซเชียลถึงที่พักแห่งหนึ่ง กางเต็นท์บริเวณข้างบนใกล้จุดผาหัวสิงห์ประมาณ 100 เมตร ทำให้บดบังควาสวยงามของธรรมชาติ

ภาพจากอีจัน



โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดกางเต็นท์ดังกล่าวแล้ว มีชื่อว่า ลานกางเต็นท์ผาหัวสิงห์ พบ นายกัวเน้ง แซ่ท่อ แสดงตัวเป็นเจ้าของพื้นที่ อ้างว่าเป็นที่ดินของพ่อที่รัฐได้จัดสรรที่ดินทำกินให้ทำประโยชน์มานานแล้ว และพ่อได้แบ่งที่ให้กับตนและลูกคนอื่นๆ แต่จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง พบว่าที่ดินนี้เป็นเพียงทุ่งหญ้า มีร่องรอยทำประโยชน์ไม่มาก และพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าไม้ 2484 ติดกับเขตอุทยานเเห่งชาติเขาค้อ เป็นลุ่มน้ำชั้น 1 A นอกจากนี้ยังพบว่าพื้นที่ที่นายกัวเน้งสร้างลานกางเต็นท์ และอาคารที่พักของตัวเอง เป็นการทำโดยไม่ได้รับอนุญาต และอยู่นอกเขตที่รัฐจัดสรรให้ทำกิน

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


สำหรับในวันนี้คณะเจ้าหน้าที่ได้ลงมาตรวจสอบและเร่งรัดผู้ประกอบการอีกครั้งให้ปฏิบัติตามคำสั่ง คือ ได้แจ้งความดำเนินคดีในความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐาน "ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” มาตรา 55 ฐาน "ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น” โดยได้ตรวจยึดพื้นที่คืน และให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง คือ บ้านคอนกรีต 1 หลัง เต็นท์กระโจม 7 หลัง, ห้องน้ำ 4 หลัง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
อีจันได้สอบถามพูดคุยกับ นางปลา เป็นภรรยาของนายกัวเน้ง เล่าว่า ที่ดินตรงนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากพ่อสามี เดิมก็ทำการเกษตรสวนกะหล่ำปลีอยู่แล้ว แต่ยุคสมัยเปลี่ยน เราก็ต้องปรับตาม ทั้งกะหล่ำปลีก็ไม่ค่อยมีรายได้ และเห็นว่าภูทับเบิกกำลังถูกดันให้เป็รที่ท่องเที่ยว จึงตัดสินใจลานกางเต็นท์ในที่ดินนี้ ขอยืนยันว่าไม่ได้บุกรุกป่า หรือทำลายทรัพยากรธรรมชาติตามที่ถูกโจมตีในโลกโซเชียล ส่วนเรื่องที่ถูกดำเนินคดีก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่ก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลตามความจริงกับเจ้าหน้าที่ต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ก็จะขอปิดที่นี่ไปก่อน
ภาพจากอีจัน