อีจันช่วยด้วยค่ะ ลูกโดนพี่เลี้ยงบีบคอ ตอนนี้อยู่ห้อง ICU

เอาเรื่องถึงที่สุด! แม่ร้องอีจัน ลูกวัย 2 ขวบเศษ โดนพี่เลี้ยงทำร้าย ตอนนี้นอนไร้ความรู้สึกอยู่ใน ICU

พี่คะ
ลูกหนูโดนทำร้ายค่ะ
ช่วยด้วยค่ะ

คุณแม่รายหนึ่ง ส่งข้อความมาหาอีจัน พร้อมรูปลูกชาย ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย พร้อมสายระโยงระยาง ต่อเข้าทางช่องปาก

ประโยคต่อไปที่เธอส่งมาให้เรา คือ “หนูสงสารลูกค่ะ”
น้องโดนพี่เลี้ยงทำร้าย แจ้งความดำเนินคดีแล้ว เขาก็ยังออกมาโพสต์ประกาศ เปิดรับเลี้ยงเด็กอยู่ ที่หนูแจ้งเพจเพราะหนูไม่อยากให้เด็กคนอื่นเป็นเหมือนลูกของหนูค่ะ

เรื่องนี้ ปล่อยไว้ไม่ได้ เราจึง โทรไปคุยกับคุณแม่ท่านนี้


"เคยเห็นแต่ในข่าว ไม่คิดเลยว่ามันจะมาเกิดกับลูกของเรา"
คุณแม่ เล่าให้อีจันฟังว่า ตัวเองต้องทำงานไม่มีเวลาอยู่กับน้อง จึงต้องฝากพี่เลี้ยงเด็กดูแลน้องแทน และจะพาน้องไปส่งตอน 8 โมงเช้า และมารับกลับตอน 6 โมงเย็น คุณแม่มีลูก 2 คน คนโตอายุ 2 ขวบ 6 เดือน ส่วนลูกคนเล็ก คุณแม่ได้พาน้องไปฝากเลี้ยงที่นี่ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 แล้ว เสียเงินค่าเลี้ยงดูเด็ก 2 คน ต่อเดือน คนละ 6,000 บาท ค่าใช้จ่ายอื่นๆแยกต่างหาก ทุกอย่างดูปกติ ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อน พี่เลี้ยงดูแลลูกคนเล็กอย่างดี จึงเกิดความไว้ใจ เชื่อใจว่าจะฝากลูกไว้ได้ จึงพาลูกชายคนโตไปฝากเลี้ยงเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา
แต่ผ่านไปแค่ 2 สัปดาห์ ก็เกิดเรื่อง!

30 มิ.ย.63 เวลาบ่าย 3 โมง พี่เลี้ยงเด็กโทรมาบอกว่า
ลูกชายคนโต วัย 2 ขวบ 6 เดือน ของเธอกินนมแล้วอ้วก และเกิดอาการชัก อย่างรุนแรง
พี่เลี้ยงพาน้องไปคลินิกแห่งหนึ่ง แต่ไม่สามารถรักษาอาการของน้องได้ จึงเรียกรถฉุกเฉินมารับตัวน้องไปโรงพยาบาลภูมิพล เพื่อเข้าห้องฉุกเฉินทันที
แม่ได้ตามไปที่โรงพยาบาล ตอนนั้นแพทย์ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่า น้องป่วยเป็นอะไร จึงพาน้องเข้าห้องสแกนและพาน้องเข้าห้อง ICU เด็ก
ก่อนแพทย์จะออกมาบอกว่า ลูกของเธอ ต้องเข้าห้องผ่าตัดกะทันหัน เพราะมีเลือดคั่งในสมอง !
ถ้าไม่ผ่าตัดด่วน โอกาสรอดก็น้อยมาก !
คำถามของเธอตอนนั้น คือ เลือดคั่งในสมองเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
เมื่อถามไปยังพี่เลี้ยงเด็ก คำตอบที่ได้คือ น้องลื่นล้ม คุณแม่เริ่มเอะใจ ?

30 มิ.ย. จนถึงวันนี้ (10 ก.ค.63) 11 วันผ่านไป น้องก็ยังไม่ฟื้น ยังไม่ได้สติ ไม่รับรู้ ลืมตาได้เพราะระบบประสาทสั่งการเท่านั้น แต่ยังมองไม่เห็น และพูดไม่ได้
เมื่อวาน (9 ก.ค.63) แพทย์เพิ่งถอดเครื่องช่วยหายใจออก เพื่อให้น้องได้ลองหายใจด้วยตัวเอง

แม่เล่าให้เราฟัง ก็คอยแต่โทษตัวเอง โทษความสะเพร่าของตัวเอง เพราะไม่ได้สังเกตลูก ทั้งๆที่กลับมาก็เล่นกับลูก ลูกก็ร่าเริงปกติ
แต่เคยเห็นรอยที่คอก่อนหน้านั้นแล้ว ถามพี่เลี้ยง ก็ตอบว่า เป็นรอยที่น้องเกาเอง ก่อนจะเห็นรอยอีกครั้ง วันที่ 29 มิ.ย. แต่ก็ไม่ได้เอะใจ คิดว่าเด็กเล่นกัน เลยไม่ได้ถามลูก

ภาพจากอีจัน
ตอนนี้ แม่ได้แจ้งความไว้ที่ สน.ดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.63 ด้านพี่เลี้ยงก็เพิ่งจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา เพราะต้องรอผลตรวจร่างกายของน้อง ซึ่งพบร่องรอยการถูกทำร้าย มีรอยหยิกที่แขน ท้อง ขา และหลัง มีรอยตี บีบคอ มีรอยจ้ำเขียวตามร่างกายเต็มไปหมด ซึ่ง พี่เลี้ยง ก็ยอมรับ ตีน้อง เพราะจำนนต่อหลักฐาน พี่เลี้ยงอ้างว่า น้องดื้อ พูดไม่ฟัง จึงลงไม้ลงมือขึ้น
ภาพจากอีจัน
แม่เล่าอีกว่า หลังพี่เลี้ยงยอมรับ เจ้าตัวก็ถามคุณแม่ ว่าอยากได้ค่าเสียหายเท่าไหร่ จะจ่ายให้ ไม่อยากติดคุก แต่คุณแม่ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เงินไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ตอนนี้เป็นห่วงลูก อยากให้ลูกฟื้นมากกว่า ไม่รู้ว่าลูกจะฟื้นเมื่อไหร่ แล้วจะกลับมาเป็นปกติหรือไม่ ที่แม่แจ้งทางเพจไป เพราะอยากให้เรื่องของแม่ เป็นอุทาหรณ์ให้กับบรรดาผู้ปกครองที่มีลูกแต่ไม่มีเวลาดูแล ว่า ให้เลี้ยงเองดีที่สุด อย่าฝากคนอื่น เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า เขาจะรักลูกเราเหมือนที่เรารักไหม เราไม่ได้เห็นตอนที่เขาเลี้ยงดู ควรเช็กให้ดีก่อนว่าการเลี้ยงดูของเขาเป็นอย่างไร ดีพอไหม หรือถ้าจะฝากก็ให้ฝากญาติแทนจะดีกว่า เคยเห็นแต่ในข่าว ไม่คิดเลยว่าจะเกิดขึ้นกับลูกของตัวเอง หลังคุยกับคุณแม่ อีจัน ได้ติดต่อไปยัง คุณตำรวจ สน.ดอนเมือง เจ้าของคดี ผู้กองบอกว่า เรียกมาสอบปากคำ เขาก็มา และสารภาพว่า ตนเองตีเด็กและบีบคอจริง แต่ปฏิเสธว่าทำถึงขั้นเลือดคั่งในสมอง ตำรวจจึงแจ้งความดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว เนื่องจาก ผู้ต้องหาไม่มีท่าทีหลบหนีและมาตามเรียกตัว จึงปล่อยตัวชั่วคราว โดยผู้ต้องหาจะต้องมารายงานตัวทุกครั้ง ขณะนี้ตำรวจก็กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว อีจัน จึงประสานกับมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือ น้อง และครอบครัวต่อไป