ข้ามคืนมาแล้วแต่ดราม่ายังไม่ลดลง ร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ การเดินทางเข้ามาในประเทศไทยของกลุ่มทหารจากประเทศอียิปต์และคณะทูตจากภูมิภาคประเทศแอฟริกา ที่มาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งที่น่าตกใจก็คือ 2 ในกลุ่มของผู้ที่เดินทางเข้ามาในไทยนั้น ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และซ้ำความกังวลเมื่อผลตรวจออกมาแล้วว่า มีคนใกล้ชิด 2 กลุ่มดังกล่าวติดเชื้อเพิ่มอีก 11 คน
โดยไทม์ไลน์ทหารรายนี้ มีการเข้าพักที่โรงแรม และเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง จนกระทั่งตรวจพบเชื้อ และกลุ่มคนใกล้ชิดทหารที่พบเชื้อ ยังมีประวัติการเดินทางไปห้างสรรพสินค้า จ.ระยองอีกด้วย
รวมถึงเด็กหญิงวัย 9 ปี เดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกา เมื่อวันที่ 7 ก.ค.63 พร้อมกับครอบครัวคณะทูต ที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และครอบครัวและเข้าพักที่โรงแรมในกรุงเทพฯ ทำให้ตอนนี้หลายพื้นที่ใน จ.ระยอง-กรุงเทพฯ กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงและมีการตรวจสอบและแก้ปัญหากันยกใหญ่ คนในพื้นที่ก็เริ่มอยู่ไม่เป็นสุขเพราะหวาดระแวงเรื่องการแพร่ระบาด
ล่าสุดวานนี้ 13 ก.ค.2563 เทศบาลนครระยองเนื่องจากมีข่าวการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เกิดขึ้นในจังหวัดระยอง และพบว่ามีแม่บ้านโรงแรมมีประวัติใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ติดเชื้อดังกล่าว และมีลูกสาวและหลานเรียนอยู่ที่โรงเรียนในเขตพื้นที่เทศบาลระยอง
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและเผยแพร่ของเชื้อโควิด-19 เทศบาลนครระยอง จึงปิดการสอนที่โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครระยองทั้ง 6 โรงเรียน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 2 ศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2563
ดังนี้ รร.สาธิตเทศบาลนครระยอง,รร.วัดโขดหิมธาราม,รร.นครระยองวิทยาคม,รร.เทศบาลวัดลุ่ม,รร.เทศบาลบ้านปากคลอง,ศูนย์เด็กเล็กวัดเนินพระ,รร.เทศบาลวัดปากน้ำ,ศูนย์เด็กเล็กวัดป่าประดู่ โดยให้เรียนทางออนไลน์แทน (ยกเว้นศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก) ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบทันที
ซึ่งวันนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงกรมควบคุมโรคจะเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงที่กลุ่มผู้ติดเชื้อเข้าใช้บริการ และจะร่วมกันตรวจสอบและประชุมเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป
ทางมีความคืบหน้าจันจะรายงานให้ทราย
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน