เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เขาจะไม่ออกคำสั่งระดับชาติบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย แม้สหรัฐฯ จะเดินหน้าทำลายสถิติยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายวัน ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดใหญ่ที่ยังห่างไกลจากการถูกควบคุม
ภาพจากอีจัน
ขณะที่บทสัมภาษณ์ในรายการหนึ่ง มีการถามทรัมป์ว่า เขาจะพิจารณาออกคำสั่งกำหนดให้ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า “ไม่ ผมต้องการให้ประชาชนมีเสรีภาพ ผมไม่เห็นด้วยกับการออกกฎเกณฑ์ดังกล่าว ผมไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า ‘หากทุกคนสวมหน้ากาก ทุกอย่างก็จะหายไป’”
ทรัมป์ กล่าวต่อว่า “ดร. แอนโธนี เฟาชี เคยกล่าวว่า ไม่ต้องสวมหน้ากาก นายแพทย์ใหญ่ของเราก็เคยบอกว่าไม่ต้องสวมหน้ากาก ทุกคนบอกว่าไม่ต้องสวมหน้ากาก แต่อยู่ดีๆ ทุกคนก็บอกว่า เราต้องสวมหน้ากากอนามัย และอย่างที่คุณทราบ หน้ากากก็ทำให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อในการสวมหน้ากากอนามัย ผมคิดว่าหน้ากากนั้นดี”
ที่ผ่านมาทรัมป์ปฏิเสธการสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่การระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น โดยอ้างว่าตนมีสุขภาพแข็งแรง และได้รับการตรวจโรคโควิด-19 อยู่เป็นประจำ ซึ่งล้วนมีผลออกมาเป็นลบ