“ดิ๊กกี้ เดอะน็อต –ฟิล์ม ปริญ” ผุดไอเดียใหม่ สวนกระแสวิกฤตโควิด 19

ในช่วงเดือนมกราคมที่ประเทศไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งแรก และลุงคนขับแท็กซี่ชาวไทย รายแรกที่ติดเชื้อ จากนั้นในเดือนเมษายนรัฐบาลประกาศ "เคอร์ฟิว" ห้ามออกจากเคหสถานเวลา 4 ทุ่ม-ตี 4 ทั่วประเทศ ในสถานการณ์นั้น ส่งผลให้ประชาชนคนไทยตกอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจซบเซา ขาดเงินขาดรายได้ หลายธุรกิจต้องปิดตัวลง คนไทยต้องตั้งหลัก ตั้งสติ และหาช่องทางในการหารายได้ท่ามกลางโรคร้าย เช่นเดียวกันกัน ดิ๊กกี้ ทรงศักดิ์ วาปีเท หรือ ดิ๊กกี้ เดอะน็อต 2016 ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง งานที่ทำประจำถูกปิดตัวลงชั่วคราว แต่วิกฤตต้องพลิกให้เป็นโอกาส ดิ๊กกี้ไม่นิ่งนอนใจ หาช่องทางทำธุรกิจเพื่อเป็นทางรอดให้กับชีวิต ด้วยการจับมือกับหุ้นส่วน ฟิล์ม ปริญ อารยะเบญจกุล เปิดธุรกิจเบเกอรี่ ‘เค้กไข่ไทยแลนด์’ขนมบ้านพู่กัน สาขา ชลบุรี

ดิกกี้เปิดใจด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจว่า ช่วงโควิด-19 ผมได้รับผลกระทบโดยตรง งานประจำที่โรงละครถูกปิดตัวลงชั่วคราว ตอนนั้นมันเคว้งนะครับ ไปต่อไม่เป็น ก็อยู่นิ่งอยู่พักนึง เพราะอยู่ในภาวะ เคอร์ฟิว ทั่วประเทศ ระหว่างนั้นผมก็มองว่า ตัวผมจะทำอะไรได้บ้าง ประจวบเหมาะ ครอบครัวของเพื่อนสนิท ฟิล์ม ปริญ เปิดร้านขนมชื่อ เค้กไข่ ไทยแลนด์ สาขาอ่างทองกับอยุธยา ซึ่งขายดีมาก และผมเองมองว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ ก็ปรึกษากับฟิล์มว่า ผมอยากเปิดร้าน ให้มาเป็นหุ้นส่วน เพราะเหมือนเป็นธุรกิจที่เรายังไม่เคยทำ และไม่เคยมีประสบการณ์ เพื่อนก็ยินดี ซึ่งเค้กไข่ไทยแลนด์ เป็นเฟรนไชส์ มีหลายสาขา ตัวของผม คือสาขาชุลบุรีครับ

ซึ่งออเดอร์สุดปัง เค้กไข่ที่ร้านขายดีจนไม่พอกันความต้องการของลูกค้า ด้วยความที่เตาอบ แต่ละเตาจะใช้เวลาในการอบขนม 1 เตา ต่อ 1 ชั่วโมง จึงทำให้เราทำเค้กออกมาไม่ทันกับความต้องการของลูกค้า ออเดอร์คิวยาวถึง 3-4 วัน พอเจอปัญหาคิวออเดอร์หลายวัน ผมเลยมาปรับวิธีการรับออเดอร์ คือจะไม่รับออเดอร์ล่วงหน้า จะขายหน้าร้านเท่านั้น ลูกค้าจะมารับบัตรคิวและต่อคิวซื้อเลย ถ้าบางวันเค้กไข่ไม่พอ ผมจะจำกัดจำนวน เช่นจำกัด 5 กล่องต่อคน ซึ่งตรงนี้ผมเข้าใจว่า ลูกค้าบางคนที่เขาตั้งใจอยากจะมาอุดหนุน แล้วต้องรอนาน หรือบางทีก็ไม่ได้ อันนี้ผมต้องแก้ปัญหาให้ดีกว่านี้ ในอนาคตอันใกล้อาจจะต้องเพิ่มจำนวนเตา เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างเพียงพอ