เปิดพิรุธทำคดีพลิก! จากอุบัติเหตุรถยนต์แก๊สระเบิด สู่คดีฆ่าอำพราง จัดฉากให้คนอื่นตายแทน เพื่อหนีคดี

สืบนิดพิรุธออก! หนุ่มใหญ่ หลอกคนทั้งประเทศ จัดฉากตายให้ตัวเอง หวังหนีคดี “ฆ่าคนตาย”

จากคดีอุบัติเหตุ ที่อาจจะกลายเป็น คดีเผาอำพรางจัดให้ตัวเองตาย ?
วันที่ 26 ก.ค.63 เวลา 20.00 น.
ร.ต.ท.พชรพล เผ่าสำราญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.จอมบึง ได้รับแจ้งเหตุ จาก นางขวัญเรือน อายุ 54 ปี ว่าน้องชายของตน นายธิตินันท์ อายุ 43 ปี ถูกพบเป็นศพในซากรถเก๋งที่เกิดเพลิงไหม้ บริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
ตำรวจจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นอู่รับทำเบาะรถยนต์ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลจอมบึง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี

ภาพจากอีจัน

ที่เกิดเหตุพบซากรถยนต์ ยี่ห้อซีตรอง สีแดง ทะเบียน กม 6094 ราชบุรี และรถยนต์ญี่ปุ่นเก่า ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนรถ ลักษณะคล้ายชนท้ายกัน และมีร่องรอยถูกไฟไหม้ทั้ง 2 คัน ภายในพบโครงกระดูกมนุษย์ ซึ่งคาคว่าเป็นของนายธิตินันท์ เจ้าของอู่รับทำเบาะรถยนต์ ถูกเพลิงเผาไหม้จนเหลือแต่โครงกระดูก นอกจากนี้ ยังพบชะแลงเหล็ก 1 นิ้ว ยาว 1.5 เมตร ส่วนกุญแจรถเสียบอยู่ในรูสตาร์ท พบถังแก๊สโดนัท ขนาด 45 ลิตร อยู่ภายในใต้เบาะหลังรถ

นางขวัญเรือน พี่สาวของนายธิตินันท์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เวลา 15.00 น. นายธิตินันท์ ได้โทรมาหาเธอเพื่อยืมที่ชาร์จแบต แต่เธอไม่มี น้องชายจึงบอกว่า จะเอารถไปเติมแก๊ส และบอกอีกว่า แก๊สมันดัง ด้วยความเป็นห่วง เธอจึงบอกให้น้องระวังให้ดี น้องชายก็ตอบเธอกลับมาว่า ไม่ใช่ระเบิดล่ะ แล้วก็วางสายไป
หลังจากวันนั้น เธอก็ไม่ได้ติดต่อกับน้องชายอีกเลย…

ภาพจากอีจัน

จนวันที่ 26 ก.ค.63 เวลา 18.00 น. น้องสะใภ้โทรมาหา เพื่อให้เข้าไปดูนายธิตินันท์ ที่บ้าน ซึ่งเปิดเป็นอู่รับทำเบาะรถยนต์แต่ปิดกิจการไปแล้ว เนื่องจากติดต่อไม่ได้
พี่สาวจึงเข้ามาดู เมื่อมาถึงก็เห็นสุนัขคาบอะไรมากินอยู่แถวซากรถที่ถูกไฟไหม้ แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ และเอาไม้เขี่ยดูกลับพบว่าเป็นตับ !!!

พี่สาวไปดูที่ซากรถ ก็พบโครงกระดูกมนุษย์ส่วนขาอยู่ภายใน จึงรีบแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ จนรู้แล้วว่าเป็นกระดูกมนุษย์จริงๆ จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
เธอเชื่อว่าโครงกระดูกมนุษย์ที่พบ ต้องเป็นของน้องชายที่หายตัวไปแน่นอน !
และในวันที่น้องชายจะเอารถไปเติมแก๊ส แก๊สอาจเกิดระเบิดจนไฟไหม้ทำให้น้องชายเสียชีวิต

เธอไม่คิดมาก่อนว่าจะมีเหตุการณ์ไฟไหม้รถเกิดขึ้น เพราะเมื่อวันที่ 25 ก.ค. เธอก็มาหักหน่อไม้บริเวณใกล้ๆกัน แต่ก็ไม่ได้เข้ามาที่นี้
พร้อมเล่าอีกว่า ที่ผ่านมาน้องชายอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว ไม่เคยไปยุ่งกับใคร ไม่เคยมีปัญหากับใคร
ส่วนลูกสาวของน้องชาย อยู่คนละบ้าน และยังไม่รู้ว่าพ่อของตนเองเสียชีวิตแล้ว

ภาพจากอีจัน

จากคำให้การของพี่สาว ดูเหมือนจะเป็นแค่อุบัติเหตุแก๊สรถยนต์ระเบิดธรรมดา
ตอนนั้นตำรวจ จึงตั้งข้อสันนิษฐาน ว่า
โครงกระดูกที่พบน่าจะเป็นของ นายธิตินันท์ ที่ขับรถคันดังกล่าวจะไปเติมแก๊ส แต่ถังแก๊สโดนัทเกิดมีปัญหา ทำให้เกิดระเบิดและไฟลุกไหม้รถ จนทำให้รถไปชนกับรถเก๋งญี่ปุ่นอีกคันและเพลิงลุกไหม้คลอก นายธิตินันท์ จนเสียชีวิต

แต่ตั้งข้อสันนิษฐานปุ๊ป ปิดคดีปั๊ป ไม่ได้
ต้องมีหลักฐานชัดเจนว่า โครงกระดูกนี้ใช่ นายธิตินันท์ จริงหรือไม่?

ตำรวจต้องเร่งสืบคดี
ดีเอ็นเอ ลูกสาวของ นายธิตินันท์ คือ กุญแจไขคดี
ตำรวจจึงเชิญตัวลูกสาวมาตรวจสอบดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบกับโครงกระดูกที่พบ เพื่อยืนยันตัวตนของศพ

ภาพจากอีจัน

27 ก.ค.63
พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก.สภ.จอมบึง ได้ร่วมประชุมกับ พ.ต.อ.ปิยะ ตันติสิระ นักวิทยาศาสตร์ สบ.4 งานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 7 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.จอมบึง เพื่อลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง เนื่องจาก การเก็บหลักฐานเมื่อวันที่ 26 ก.ค.63 ซึ่งทำในช่วงเวลากลางคืน จึงมีความยากลำบากในการทำงาน
โดยจะนำหลักฐานที่ได้มาประกอบกับผลตรวจโครงกระดูกและชิ้นส่วนร่างของผู้เสียชีวิต จากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนผลตรวจดีเอ็นเอและการยืนยันอัตลักษณ์บุคคล จะต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน

ระหว่างรอผลชันสูตร ตำรวจก็เร่งหาคำตอบ
– รถยนต์คันที่เกิดเหตุจอดไว้นานเท่าไหร่
– รถยนต์ติดตั้งแก๊สที่ร้านไหน
– รถยนต์ต่อทะเบียนกับทางขนส่งครั้งล่าสุดเมื่อใด
– เรียกสอบสวนญาติ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต

แต่จากการสืบสวนของตำรวจ ทำให้พบพิรุธในจุดเกิดเหตุหลายอย่าง!
– ถังแก๊สรถยนต์ ไม่ได้ต่อสายเข้าระบบรถยนต์
– รถจักรยานยนต์ที่ นายธิตินันท์ ใช้อยู่เป็นประจำหายไป
– ในพื้นที่ สภ.จอมบึง ใกล้กับจุดเกิดเหตุ มีการแจ้งคนหายไว้ แต่ ไม่ใช่ นายธิตินันท์

พิรุธที่พบ ตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนเชิงลึกต่อ เพื่อหาคำตอบ
ก่อนจะพบความจริง โครงกระดูกที่พบในซากรถยนต์ ไม่ใช่ของนายธิตินันท์!!!

แล้วโครงกระดูกที่พบเป็นของใคร ?

ภาพจากอีจัน

พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จ.ราชบุรี เผยว่า ในเบื้องต้นนั้น คิดว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุนั้นพบว่ามีพิรุธในจุดเกิดเหตุหลายอย่าง ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ เมื่อตรวจสอบประวัติ นายธินินันท์ ก็พบว่าถูกจับในข้อพยายามฆ่าเมื่อปี พ.ศ.2562 และคดีได้ถูกส่งฟ้องไปแล้ว แต่ช่วงที่อยู่ในคุก นายธิตินันท์ พยายามจะฆ่าตัวตาย ญาติจึงได้ซื้อหลักทรัพย์ประกันตัวออกมา โดยศาลจะมีการตัดสินในวันที่ 18 สิงหาคม 2563 นี้
เหตุนี้ ทำให้ตำรวจต้องดำเนินการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ทั้งผลดีเอ็นเอ การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์

จนพบว่าศพในรถที่ถูกเผานั้น คือนายเปลี่ยน สีชมพู อายุ 54 ปี ชาวบ้านใน ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นชายเร่ร่อนที่เดินเก็บขยะขายในบริเวณดังกล่าว

หรือ นายธิตินันท์ ฆ่าชายเร่ร่อน แล้วนำศพมาเผาอำพราง !
ก่อนจะหลบหนีไป ?

และแล้ว คดีก็พลิก ตามที่ตำรวจสันนิษฐาน
31 ก.ค.63 ตำรวจตามรวบตัว นายธิตินันท์ ได้ที่อำเภอบ้านคา จ.ราชบุรี

พ.ต.อ.ไวโรจน์ แน่นพิมาย ผกก.สภ.จอมบึง เผยว่า หลังจับกุมตัว นายธิตินันท์ ก็สอบปากคำอยู่นานข้ามคืน จนเจ้าตัวยอมเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นคนไปชักชวนนายเปลี่ยน มากินเหล้าที่บ้าน จากนั้นก็ได้ทำร้ายนายเปลี่ยน ด้วยการใช้แชลงเหล็กตีจนตาย ก่อนจะนำศพไปใส่ไว้ในรถ และสตาร์ทเพื่อให้รถพุ่งไปชนรถอีกคันที่จอดอยู่ จากนั้นก็ทำการจุดไฟเผา ตั้งใจให้ทุกคนเข้าใจว่า ตัวเองตายอยู่ในกองเพลิง
คดีที่ตนต้องโทษอยู่ก็จะได้จบไป เงินประกันที่ซื้อหลักทรัพย์มา ศาลก็จะต้องคืนให้เจ้าของทรัพย์ และตนยังมีเงินประกันชีวิตอีกจำนวนหนึ่ง ทางครอบครัวก็จะได้ไม่เดือดร้อน
นายธิตินันท์ บอกว่า “ยอมที่จะอยู่เหมือนบุคคลที่สูญหาย”

เบื้องต้น ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ
ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ ศาลจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 1 ส.ค.63