ญาติแห่ศพหนุ่ม อบต. จี้เอาผิดชุดจับกุม เชื่อถูกซ้อมก่อนตาย

ญาติหนุ่ม อบต. แห่โลงศพประท้วงตำรวจ เชื่อถูกซ้อมก่อนตาย ผู้การฯ นครพนม สั่งเด้ง 8 ตำรวจ ตั้งทีมเอาผิดทั้งอาญาและวินัย

จากเหตุการณ์ที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม เข้าไปจับกุมวัยรุ่นที่นั่งดื่มสุรา ภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม โดยจับตัวได้ 6 ราย ตรวจค้นพบยาบ้า 10 เม็ด และมีการตรวจพบสารเสพติด จึงดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ในช่วงเข้าจับกุมนั้น นายวิทยา โสภาวงค์ อายุ 40 ปี พนักงาน อบต.ก้านเหลือง ที่ไปนั่งดื่มเหล้าอยู่ในบ้านดังกล่าวด้วย ตกใจกลัววิ่งหนี ตำรวจจึงวิ่งไล่ไปจับกุมตัวมาได้ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.หนองบ่อ แต่นายวิทยาเกิดหน้ามืด แน่นหน้าอก จนหมดสติไป ตำรวจจึงนำตัวส่งไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก แต่นายวิทยา เสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล

แต่ญาติติดใจเชื่อว่า นายวิทยา ถูกทำร้ายร่างกาย ในช่วงมีการจับกุมเป็นต้นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิดกับตำรวจชุดจับกุม แต่คดีไม่คืบ จึงต้องออกมาประท้วงขอความเป็นธรรม และยืนยันไม่ยอมเผาศพ

ความคืบหน้าล่าสุด (4 ส.ค. 63) ครอบครัวและญาติพี่น้องของนายวิทยา ได้นำโลงศพนายวิทยา แห่ขึ้นรถกระบะ มาประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรม กับ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม รวมถึงนายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม และหน่วยงานเกี่ยวข้องระดับจังหวัด เพื่อดำเนินการเอาผิดทั้งทางอาญา และทางวินัยกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองบ่อ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
พ.ต.อ.ทัศนัย โอฬาริกเดช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง ได้มารับเรื่องร้องทุกข์ กับญาติผู้เสียชีวิต พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินคดี นอกจากนี้ยังได้ประสานทางจังหวัดนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม มารับเรื่องพร้อมชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิ์ จนเป็นที่พอใจ และยอมนำศพผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศล
ภาพจากอีจัน

พ.ต.อ.ทัศนัย เปิดเผยว่า ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุดวันนี้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ประกอบด้วย ชั้นสัญญาบัตร 2 นาย ชั้นประทวน 6 นาย ดังนี้

1.พ.ต.ท.อำนาจ บุญประไพ สารวัตรใหญ่ สภ.หนองบ่อ
2.พ.ต.ท. ศักดิ์ งามสเนห์ สารวัตรอำนวยการ
3.ส.ต.ท.พลวัฒน์ ฉายพล
4. ส.ต.ต.โกเมนทร์ ทาตาสุข
5.ส.ต.ต.เชิดวุฒิ อาจวิชัย
6. ส.ต.ต.วรวุฒิ ศรีแก้ว
7. ส.ต.ต.ธีรเดช เมืองโตร
8.ส.ต.ต.พีรวิชญ์ ศรีมูล ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม

ส่วนของการเรียกร้องให้ดำเนินคดี ทางตำรวจจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย โดยได้ตั้งทีมพนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนข้อเท็จจริง สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทุกราย เพื่อสรุปสำนวนส่งไปยัง ปปช. เนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติเจ้าหน้าที่โดยมิชอบ โดยจะแบ่งสำนวน ออกเป็น 3 ส่วน คือ

ภาพจากอีจัน

ส่วนที่ 1 สำนวนสอบสวนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการเข้าไปตรวจสอบจับกุมดำเนินคดีกลุ่มวัยรุ่น ทั้ง 6 ราย กระทำความผิดเกี่ยวกับการเสพยาบ้า แต่อีก 1 ราย เป็นผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากเสียชีวิต ขณะควบคุมตัว
ส่วนที่ 2 เป็นการสอบสวนสรุปสำนวนกรณีญาติผู้เสียชีวิตเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่เกี่ยวข้อง
ส่วนที่ 3 เป็นสำนวนเกี่ยวกับคดีชันสูตรพลิกศพ ซึ่งจะได้สรุปสำนวน ส่งไปให้อัยการเพื่อให้ศาลไต่สวน เพื่อพิจารณาว่า ผู้ตายเป็นใคร จากสาเหตุอะไร ถูกทำร้ายตาย หรือสาเหตุอื่นๆ โดยศาลจะเป็นผู้ไต่สวนพิจารณา ก่อนที่จะมีคำสั่งสรุปสาเหตุการเสียชีวิต และ เสนอไปยัง ปปช. ซึ่งในการทำสำนวนมีระยะเวลา 30 วันตามกฎหมาย
จากนั้น ปปช. จะเป็นผู้ชี้มูลความผิดออกคำสั่ง มายังตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ให้ดำเนินการตามกฎหมาย หากตำรวจชุดถูกกล่าวหาถูกพิจารณามีความผิด ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม จะออกคำสั่งตั้งคระกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยตามขั้นตอน
อย่างไรก็ตามทางตำรวจยืนยันจะดำเนินคดีตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และมีการออกคำสั่งแต่งตั้ง ตำรวจไปดูแลรักษาการ ปฏิบัติหน้าที่แทน ไม่กระทบต่อการดูแลประชาชน ส่วนการชดเชยเยียวยาจะต้องรอขั้นตอนทางกฎหมายอีกส่วนได้ประสานให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องสิทธิที่จะได้รับ

ด้าน นางสาวกนกพร พงษ์พันษ์ อายุ 38 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า รู้สึกสบายใจขึ้น หลังตำรวจระดับผู้บังคับบัญชามาดูแล รับเรื่อง เพราะก่อนนี้ยอมรับว่าครอบครัวเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะคู่กรณีเป็นตำรวจ จึงต้องเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด

ภาพจากอีจัน

ยืนยันว่า สามีไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนจะไปนั่งดื่มกินกับกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นในหมู่บ้านถือเป็นธรรมดา คนในหมู่บ้านเดียวกัน ทุกคนรู้ประวัติการทำงานของสามีดี เป็นพนักงาน อบต. มาหลายปี ไม่เคยมีปัญหา ดูแลครอบครัว ตอนนี้มีลูกชายสองคน คนโตเพิ่ง 10 ขวบ คนเล็กเพิ่งขวบครึ่ง ส่วนตนเป็นแม่บ้านต้องแบกภาระเลี้ยงดูลูก ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตของสามีตนมั่นใจว่า สามีถูกทำร้าย เพราะปกติไม่มีโรคประจำตัว แข็งแรง หากจะมาจากสาเหตุโรคประจำตัวไม่มีแน่นอน

ภาพจากอีจัน