ลูกน้อง ส.ว.ก๊อง สารภาพ เอามือถือ “จารุชาติ” ไปทุบทิ้ง

ผบช.ภ 5 สั่งคลี่ปม! ลูกน้อง ส.ว.ก๊อง นำมือถือ จารุชาติ พยานคดีบอส ไปทำลาย อ้างหวั่นกระทบลงเลือกตั้ง

6 ส.ค. 63 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนในคดีการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง พยานคนสำคัญในคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส โดยเฉพาะข้อสงสัยกรณีโทรศัพท์ของนายจารุชาติที่หายไป

ภาพจากอีจัน

พล.ต.ต.ประจวบ ระบุว่า บุคคลที่รับโทรศัพท์มือถือไปจากญาติของนายจารุชาติ คือ “นายล้าน” ลูกน้อง ของนายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง โดยนายล้านอ้างว่าในช่วงที่นายชูชัยบวชอยู่ ได้เคยถ่ายภาพกับนายจารุชาติหลายครั้ง เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่ต้นปี 2563 จึงมีรูปภาพของตนเองอยู่ในมือถือของนายจารุชาติหลายภาพ

ภาพจากอีจัน

ซึ่งตัวนายล้านกำลังจะลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศบาลตำบลสุเทพในเร็วๆ นี้ เมื่อทราบว่านายจารุชาติที่เสียชีวิตเป็นพยานคนสำคัญในคดีดัง ก็เกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อการลงสมัครรับเลือกตั้ง จึงได้ไปขอโทรศัพท์มาจากจากญาติและอ้างว่าได้นำมือถือไปลบภาพทิ้ง

ต่อมามีการเสนอข่าวว่ามีบุคคลลึกลับนำโทรศัพท์มือถือของนายจารุชาติไป จึงเกิดความกลัวว่าจะถูกโยงไปเกี่ยวข้อง จึงนำโทรศัพท์ไปทุบทำลายและโยนทิ้งถังขยะ จากนั้นก็มีรถมาเก็บขยะไปทิ้ง

พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวอีกว่า ข้อมูลที่ได้มายังเป็นเป็นข้อสงสัยที่ตำรวจจะสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ว่า ในโทรศัพท์ของนายจารุชาติ มีข้อมูลอะไรที่สำคัญต่อคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางญาติได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีกับนายล้าน ที่นำโทรศัพท์ของนายจารุชาติไป

และในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้หายักยอกทรัพย์ และอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมว่าโทรศัพท์ดังกล่าวเป็นวัตถุสำคัญในคดีหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบข้อกฎหมายด้วยว่า เป็นการลักทรัพย์โดยใช้กลอุบายหรือไม่


สำหรับคดีการเสียชีวิตของนายจารุชาติ ตำรวจตั้งประเด็นการสืบสวนไว้ 3 ประเด็น คือ

1.เรื่องอุบัติเหตุและสาเหตุการเสียชีวิตซึ่งแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้แถลงไปแล้ว
2.ประเด็นบุคคลแวดล้อมที่้เกี่ยวข้องกับนายจารุชาติ ซึ่งได้เรียกมาสอบปากคำแล้วหลายปาก
3.เส้นทางการเงินของนายจารุชาติและญาติๆ ซึ่งตรงนี้ได้มีการตรวจสอบแล้วเช่นกัน เบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดปกติ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังไปประมาณ 2 ปี พบว่านายจารุชาติ มีการใช้จ่ายเงินตามปกติ มีเงินเข้าหลักพัน มากสุดหมื่นกว่าบาท และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งยังไม่พบข้อสงสัย