สาวร้อยเอ็ดเตรียมยื่นฟ้องเอาผิดปลัด สธ. กรณีหมอลืมหัวกรอฟันไว้ในเหงือก

เมื่อวานนี้(17 ส.ค. 63) เวลา 11.30 น. ที่คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นางกฤติกา ฤทธิขันธ์ อายุ 34 ปี ชาว ต.โพธิ์ศรีสว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เดินทางเข้าพบแพทย์เจ้าของไข้ ตามการนัดหมายดูอาการทุก 6 เดือน ภายหลังได้รับการผ่าตัดเอาหัวกรอฟัน ที่แพทย์ รพ.ชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.นราธิวาส ลืมไว้ในเหงือกนาน 5 ปี โดยเจ้าตัวได้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัวเพื่อมารอติดตามอาการตามที่ทีมแพทย์กำหนด

นางกฤติกา กล่าวว่า วันนี้มาพบแพทย์เจ้าของไข้ตามการนัดหมายตรวจอาการหลังเข้ารับการผ่าตัด ถึงวันนี้ประมาณ 1 ปี โดยทีมแพทย์จากคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มข. ได้นัดตรวจติดตามอาการทุก 6 เดือน ส่วนตัวภายหลังจากที่ได้เข้ารับการผ่าตัดรักษาเมื่อปีที่ผ่านมา อาการเฉพาะจุดนั้นทุเลาลงแต่วันนี้ร่างกายมีอาการผิดแปลกไปมาก โดยเฉพาะระบบเส้นประสาทใช้การไม่ได้ ระบบรับรสชาติก็ได้รับผลกระทบคือกินอาหารอะไรก็ไม่รู้รสชาติใดๆ ลิ้นชา ต้องเข้าพบแพทย์เฉพาะทางโดยตลอด ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2558 ยอมรับว่าตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่สบายใจ จนกระทั่งแพทย์คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มข. ได้ทำการผ่าตัดรักษาจนนำหัวกรอฟันออกมาได้ แม้อาการตรงจุดจะทุเลาแต่ร่างกายนั้นผิดแปลกไปมาก ที่ผ่านมาได้มีการประสานงานไปยังหลายหน่วยงานเพื่อร้องเรียนในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เรื่องก็เงียบหายไป

“ ในช่วง 5 ปี ที่ รพ.แห่งหนึ่ง ใน จ.นราธิวาส ทำการผ่าตัดรักษาอาการฟันคุด และลืมหัวกรอฟันทิ้งไว้ ก็มีการร้องเรียนไปแล้วหลายหน่วยงานเรื่องก็เงียบ จนกระทั่งย้ายกลับมาที่มุกดาหารตามสามี ก็เข้าสู่การตรวจร่างกายอีกครั้งเพราะทนต่ออาการไม่ไหว จนกระทั่งพบว่ามีหัวกรอฟันหักติดในเหงือก และทีมแพทย์คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มข.ได้ทำการผ่าตัดรักษาจนแล้วเสร็จ เมื่อปี 2562 จากนั้นก็ได้ร้องเรียนไปยัง สคบ. ตามระบบอย่างถูกต้อง จนมีการสอบสวน และในที่สุดก็ได้รับคำตอบว่าสำนักงานสาธารณสุข จ.นราธิวาส ก็ไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือหรือรับผิดชอบใดๆ อ้างแต่กฎระเบียบและวิธีการทางการแพทย์มาตลอด มองว่าเราเป็นชาวบ้านจะทำอะไรกับประชาชนก็ได้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทุกวันนี้ร่างกายก็อยู่ในสภาพที่ไม่ไหว คล้ายกับคนอัลไซเมอร์ อารมณ์แปรปรวน ระบบประสาทเสียหาย ลิ้นชา ระบบรับรสก็ไม่มี ต้องเทียวไปแต่ รพ. เพื่อพบแพทย์ตลอด ครอบครัวจึงได้หารือกันในการทวงสิทธิ์อันชอบธรรมที่ควรได้รับจากการกระทำที่ผิดพลาดของระบบสาธารณสุขเมืองไทยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” นางกฤติกา กล่าว

นางกฤติกา กล่าวต่ออีกว่า ครอบครัวได้หารือกันและปรึกษาทนายความ ในการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเอาผิดกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่กำกับควบคุมบุคลากรในสังกัดของท่าน ตามข้อหาหรือฐานความผิด ละเมิด เรียกค่าเสียหาย พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2526 และ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาผู้บริโภค พ.ศ.2551 โดยจะเข้ายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ในวันที่ 27 ส.ค. 2563 โดยครอบครัวมีความหวังและมั่นใจว่าระบบกระบวนการยุติธรรมของไทยจะให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เพราะทุกวันนี้ครอบครัวนั้นต่อสู้มาเพียงลำพังโดยตลอด แม้จะเป็นภรรยาของตำรวจ แต่ก็เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย จึงขอทวงสิทธิ์อันพึงที่จะได้รับและการชดเชยเยียวยาจากหน่วยงานของรัฐในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนนำไปสู่บรรทัดฐานให้กับประชาชนตาดำๆที่ถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ และการรักษาของกระทรวงสาธารณสุขในลักษณะที่คล้ายกับตนเองที่เจอ