วันนี้ (19 สิงหาคม 2563) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat โดยระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ว่า…
สถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด 19 สิงหาคม 2563 เมื่อวานติดเพิ่มอีกถึง 271,518 คน ตายเพิ่ม 6,218 คน ยอดรวมตอนนี้ 22,252,737 คน
ขณะที่ สหรัฐอเมริกา ติดเพิ่ม 48,621 คน รวม 5,649,314 คน
อีกไม่นานจะแตะ 6 ล้าน ช่วงนี้มีหลายข่าวที่ประชาชนออกมาเตือนกัน เช่น ที่ Ohio เพิ่งมีการติดเชื้อทั้งครอบครัวพร้อมกัน 5 คน โดยมีอาการในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
ในขณะที่ Minneapolis ก็รายงานการติดเชื้อในครอบครัวพร้อมกัน 7 คน โดยผู้ที่ป่วยหนักๆ ก็ออกมาสอนคนในสังคมว่า เดิมเขาก็ตั้งการ์ด แต่ยอมรับว่าตั้งแต่ปลายเดือนก่อนเริ่มลดการ์ดลงกันทั้งครอบครัว
ไปตกปลาและไปกินข้าวสังสรรค์กับสมาชิกในครอบครัวโดยไม่ป้องกัน ไม่ใส่หน้ากาก ไม่รักษาระยะห่าง
ผลก็คือ ป่วยกันหนัก และอยากขอให้เรื่องของครอบครัวตัวเองเป็นบทเรียน เตือนใจให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันตนเองอย่างต่อเนื่อง
ส่วน บราซิล ติดเพิ่ม 47,784 คน รวม 3,407,354 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 65,022 คน รวม 2,766,626 คน คาดว่าจะแตะ 3 ล้านในวันที่ 23 สิงหาคม
ขณะที่ รัสเซีย ติดเพิ่ม 4,748 คน รวม 932,493 คน
แอฟริกาใต้ เม็กซิโก เปรู รวมถึงฟิลิปปินส์ ติดกันเพิ่มราว 3-5 พันคน
สเปน สหราชอาณาจักร เยอรมัน ฝรั่งเศส อิหร่าน อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ดูยังไม่ดีขึ้น ติดกันหลักพัน
หลายประเทศในยุโรป รวมถึงแคนาดา ปากีสถาน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ติดกันหลักร้อยไปถึงเฉียดพัน
เวียดนาม จีน ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ ยังติดเพิ่มกันหลักสิบ
ทั่วโลก ไม่มีที่ใดปลอดภัยจากโควิด-19 !!!
รศ.นพ.ธีระ บอกด้วยว่า…
องค์การอนามัยโลก เพิ่งออกมาระบุว่า ตอนนี้ประเทศในเอเชียแปซิฟิกกำลังเจอระบาดระลอกใหม่ โดยแพร่กันมากในหมู่ประชาชนที่อายุน้อยกว่า 50 ปี ต่างจากการระบาดระลอกแรกในทวีปอื่นๆ ที่เป็นมากในคนสูงอายุ
คำเตือนของเขาทำให้ไทยเราควรนำมาพิจารณา สิ่งที่เราเห็นกันอยู่ในสังคมขณะนี้น่าเป็นห่วงมาก ทั้งกิจกรรมในการดำเนินชีวิตที่มีหลายคนอาจลดการ์ดลงจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม รวมถึงการมีการชุมนุมรวมคนจำนวนมาก โดยไม่สามารถรักษาระยะห่างกันได้ ใส่หน้ากากบ้างไม่ใส่บ้าง
ยังไม่นับความเสี่ยงที่สูงมาก จากการแง้มประตูประเทศให้มีการเดินทางของกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เข้ามาจากต่างประเทศ
โอกาสที่จะมีการระบาดระลอกสองอย่างรุนแรงตามมาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้นั้นมีสูงมาก หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ขอให้ใช้สติในการดำรงชีวิต
#ใส่หน้ากากเสมอ
#ล้างมือบ่อยๆ
#อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร
#ไม่แชร์ของกินของใช้ร่วมกับคนอื่น
#พูดน้อยลง
#พบคนน้อยลงสั้นลง
#เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร
#คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว
#หากไม่สบายให้หยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจรักษา
อาการไข้ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ดมไม่ได้กลิ่น ลิ้นรับรสไม่ได้ หรือท้องเสีย หากเรามีอาการใด ก็รีบไปตรวจ ขอให้คุณหมอตรวจโควิด-19 ให้ด้วย
ล่าสุด มีงานวิจัยจากฝั่งยุโรป ค้นพบว่า การดมไม่ได้กลิ่นนั้น ไม่จำเป็นต้องมีน้ำมูกหรือคัดจมูกแบบหวัดก็ได้ และอาการลิ้นรับรสไม่ได้นั้นพบบ่อยกับรสขมและรสหวาน…เล่ามาให้ประดับความรู้
ประเทศไทยต้องทำได้
ด้วยรักต่อทุกคน
แม้ว่าตอนนี้ประเทศไทยจะผ่อนปรนให้ประชาชน ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านได้ แต่ทุกคยต้องการ์ดอย่าตกนะคะ จันเชื่อว่า เราทุกคนคงไม่อยากกลับไปเผชิญกับโรคระบาดอีกแล้ว เพราะถ้าโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง ทุกอย่างที่เพิ่งฟื้นตัว ก็อาจจะแย่ลงกว่าเดิมนะคะ