ป๊อกแป๊กสาวร้อยเอ็ด หายปริศนา 13 ปี ครอบครัววอนตำรวจรื้อคดี ตามหาอีกครั้ง

ครอบครัวยังรอคอย หลัง ป๊อกแป๊ก มาเรียนที่ กทม.ก่อนหายตัวลึกลับ 13 ปี พ่อวอนตำรวจรื้อคดีช่วยตามหาอีกครั้ง หวั่นเกิดเหตุร้าย เหมือนคดีไอซ์หีบเหล็ก

วานนี้ (18 ส.ค. 63) ที่ สน.บางชัน นายสุนทร มหามาตย์ อายุ 70 ปี ชาวบ้าน อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด พร้อม น.ส.บุญญาลักษณ์ มหามาตย์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นบิดาและพี่สาวของ ของ น.ส.สุธิดา มหามาตย์ หรือ แวว หรือ ป๊อกแป๊ก อายุ 24 ปี (ขณะหายตัวไป) นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้เดินทางเข้าพบ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 และ ผู้กำกับการ สน.บางชัน ติดตามคดีที่ น.ส.สุธิดา หายตัวไปจากหอพักแฟชั่นไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา ซอย 99 แขวงและเขตคันนายาว กทม.พร้อมกับรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น อี 230 สีน้ำเงิน ทะเบียน สบ-1498 กทม.ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.2550 หรือเมื่อ 13 ปีที่แล้ว

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

น.ส.บุญญาลักษณ์ พี่สาวผู้สูญหาย เล่าว่า น้องสาวเดินทางมากทม. เพื่อมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อประมาณปี 2548 ก่อนที่น้องสาวจะคบหากับข้าราชการคนหนึ่ง ซึ่งมีอายุห่างกับน้องสาวประมาณ 20 ปี คบหากันได้ไม่นาน ก็พากันมาทำพิธีแต่งงานที่บ้านฝ่ายหญิงที่ จ.ร้อยเอ็ด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 หลังจากนั้นน้องสาวก็ติดต่อกลับมาบ้านเป็นบางครั้ง กระทั่ง เดือนพฤศจิกายน ปี 2550 สามีของน้องสาว โทรมาแจ้งว่า น้องสาวหายตัวไปพร้อมรถเบนซ์ ที่สามีซื้อให้ โดยสามีแจ้งว่า ไปพบรถถูกนำไปขายแยกชิ้นส่วน แต่ไม่พบน้องสาว

ภาพจากอีจัน

พี่สาวผู้สูญหาย เล่าต่อว่า ตนและครอบครัว พยายามตามหาน้องมาตลอด ในเดือนมิถุนายน ปี 2551 เคยมาร้องทุกข์ที่กองปราบเพื่อให้ช่วยตามหาน้อง โดยเจ้าหน้าที่กองปราบแนะนำให้ไปแจ้งเรื่องที่มูลนิธิเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ได้ข่าวคราวของน้องสาวเลย จนเมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา มีข่าวคดีไอซ์ หีบเหล็ก ฆาตกรรมหญิงสาวหลายราย ตนกังวลว่า น้องอาจตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมลักษณะนี้ จึงได้ร้องทุกข์ให้มูลนิธิกระจกเงา และศูนย์คนหาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยเหลือ และพามายื่นเรื่องขอติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สน.บางชัน

ภาพจากอีจัน

ด้าน นายสุนทร ผู้เป็นพ่อ เล่าว่า 13 ปีแล้ว ที่ไม่ได้ยินข่าวลูกสาว ไม่มีการติดต่อกลับมาหาครอบครัว ตนลองไปเช็กความเคลื่อนไหวทางทะเบียนราษฎร์ ลูกสาวก็ไม่มาต่อบัตรประชาชน ซึ่งมันผิดปกติ พอได้ดูข่าวคนฆ่ากัน ก็กลัวว่าจะเป็นลูกของตัวเอง ได้แต่ภาวนาว่า อย่าให้เขาเป็นอะไร ให้ปลอดภัยกลับบ้านมาหาพ่อแม่ ตนไม่รู้จะทำยังไง จะตามหายังไง ตอนนี้ตนก็แก่มากแล้ว เตรียมใจไว้ตลอด แต่มันไม่ลืม มันทุกข์ทรมานอยู่ในใจ รอลูกกลับบ้านมาตลอด เลยมายื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าคดี ขอให้ตำรวจรื้อคดีการหายตัวไปของลูกสาว เพื่อตามหาความจริงว่า ลูกสาวหายไปได้อย่างไร

ด้านศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีคนหายหลายกรณี ที่ภายหลัง ปรากฏว่าการหายตัวไป เป็นลักษณะอาชญากรรมที่เกิดกับผู้หญิงจนถึงแก่ชีวิต มีโอกาสที่จะคนหายกลายเป็นศพนิรนามโดยเฉพาะกรณีคนหายที่อยู่ๆ ขาดการติดต่อกับครอบครัว ขาดการทำธุรกรรมหรือไม่มีความเคลื่อนไหวในระบบราชการใดๆ โดยข้อมูลคนหายและข้อมูลศพนิรนามไม่ได้ถูกนำมาตรวจเปรียบเทียบกัน จึงพบว่ามีคนหายหลายรายที่ญาติตามหา แต่เข้าไม่ถึงข้อมูลศพนิรนาม

ภาพจากอีจัน

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ คดีพริตตี้ออย ที่ จ.ชลบุรี ที่เสียชีวิตกลายเป็นศพนิรนามนานกว่า 6 ปี ถึงจะรู้ว่าเป็นใคร ทั้งๆ ที่ครอบครัวและเพื่อนไปแจ้งความคนหายและติดตามหามาตลอด แต่ข้อมูลเหล่านี้ไม่มีการเชื่อมโยงกัน และประชาชนเข้าไม่ถึงฐานข้อมูล เพราะข้อมูลศพนิรนามกระจัดกระจายอยู่ตามแผนกนิติเวช โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศไม่มีการรวมเป็นฐานข้อมูลเดียวกัน ปัญหาศพนิรนาม จึงเป็นวาระที่ต้องสังคายนากันครั้งใหญ่

อีจันขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของ น.ส.สุธิดา ด้วยนะคะ