สลดบ้านไร่ ! พี่ฆ่าตัดหัวน้องชายแท้ๆ คาดปม ไม่ลงรอยกันมานาน ?

หนุ่มกระเหรี่ยง ชาวอุทัยฯ ถูกยิงฆ่าตัดคอ คาดฝีมือพี่ชายแท้ๆ ปมทะเลาะกันมานาน ตำรวจเร่งล่าตัวมาดำเนินคดี ขณะนี้หลบหนีเข้าป่า ญาติเกรง ผู้ก่อเหตุอาจคิดสั้น หนีความผิด

เมื่อกลางดึกวันที่ 28 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต บริเวณไร่อ้อย บ้านอีมาดอีทราย หมู่ 4 ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย กู้ภัยอำเภอบ้านไร่ และแพทย์เวร โรงพยาบาลบ้านไร่

ภาพจากอีจัน
ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นพื้นที่ป่ากันชนห้วยขาแข้ง พบ ร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย สวมเสื้อสีน้ำเงินแขนยาว กางเกงยีนส์ขายาว นอนหงายเสียชีวิต ในสภาพถูกตัดศีรษะขาดจากลำตัว โดยศีรษะและลำตัวห่างกันประมาณ 20 เมตร ใกล้ศพพบยาฉีดวัชพืช 1 ขวด ถัดไปพบมีดเหรียญ (คล้ายมีดตัดอ้อย) 1 เล่ม มีคราบเลือดติดอยู่จำนวนมาก ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายอนุวัฒน์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากระเหรี่ยง ชาวบ้านหมู่ 4 ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่
ภาพจากอีจัน
จากการตรวจสอบร่างกายผู้เสียชีวิต พบว่า ที่ลำตัวถูกยิงด้วยอาวุธปืน คาด น่าจะเป็นปืนลูกซอง แต่ไม่พบปลอกกระสุนและอาวุธปืนในที่เกิดเหตุ เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตก่อนที่จะนำมีดเหรียญ ตัดศีรษะ และหลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอย และคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่รู้จักกับผู้ตาย
ภาพจากอีจัน
ตำรวจจึงต้องสอบสวนต่อว่า ผู้ตายมีเรื่องบาดหมางกับใครหรือไม่ ? ต่อมาทราบว่า ผู้ตายเคยมีเรื่องบาดหมางทะเลาะกับพี่ชายแท้ๆ คือ นายอนุชา อายุ 32 ปี มาเป็นเวลานาน ในเรื่องของการเเย่งที่ดินทำกิน

จน 3 วันก่อนเกิดเหตุได้เกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง โดยผู้ตายได้ลงมือทำร้ายพี่ชายทั้งกระทืบและจับตัวพี่ชายโยนลงจากบ้านจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ได้แจ้งความหรือเป็นคดี ซึ่งขณะนี้ตัวของพี่ชายไม่อยู่บ้าน ตำรวจคาดหลบหนีไปตั้งแต่คืนวันที่เกิดเหตุ จึงมั่นใจว่าพี่ชายแท้ๆของผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุแน่

ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับนายอนุชา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเเละความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้กำลังเร่งลงพื้นที่ เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน และคาดว่าคนร้ายหนีเข้าไปในป่าลึกและชำนาญพื้นที่ ทำให้ยากต่อการติดตาม  เเละญาติเกรงว่าอาจฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด เนื่องจาก ผู้ก่อเหตุเคยบ่นเรื่องทะเลาะกัน และส่วนใหญ่นายอนุชา จะเป็นผู้ถูกกระทำ จนผู้ก่อเหตุเก็บความแค้นและทนไม่ไหวจึงก่อเหตุในครั้งนี้ นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุยังเคยพูดว่า หากเกิดอะไรขึ้นจะไม่ยอมติดคุก จะหนีหรือจะฆ่าตัวตายเท่านั้น ตำรวจจึงได้ประสานญาติของผู้ก่อเหตุเข้าเกลี้ยกล่อมเพื่อให้ยอมมอบตัวกับตำรวจ

ส่วนศพของผู้ตายได้ถูกส่งไปผ่าพิสูจน์ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังต้องรอผลชันสูตรที่ชัดเจนอีกครั้ง

เเละในวันนี้ (30 ส.ค.63) ช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 โมง จะมีการทำพิธีฌาปนกิจศพนายอนุวัฒน์ ต่อไป

ภาพจากอีจัน