กรณีที่ดาบตำรวจนายหนึ่งของ สน.บุคคโล สิบเวรห้องขังและทำหน้าที่ประจำห้องวิทยุ ไขกุญแจห้องขังพาผู้ต้องหาหญิงวัย 48 ปี ที่ถูกจับกุมคดียาไอซ์ ไปห้องพักแฟลตตำรวจ ก่อนที่ต่อมาผู้ต้องหาจะหลบหนีไป ส่วนดาบตำรวจสังกัด สน.บุคคโล ก็ถูกพนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ เข้าจับกุม
ภาพจากอีจัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (4 ก.ย. 63) อีจัน ได้สอบถาม พ.ต.อ.สายชล ปัญจชัย ผู้กำกับ สน.บุคคโล โดย พ.ต.อ.สายชล เผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา สวป.สน.บุคคโล ได้ทำการตรวจสอบห้องควบคุมพบว่า ผู้ต้องหาหญิงคนหนึ่งที่ถูกจับในคดียาเสพติด เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 63 ไม่ได้อยู่ในห้องควบคุม จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าระหว่างเวลา 00.01-08.00 น. ดาบตำรวจที่ทำหน้าที่สิบเวร ได้ไขกุญแจห้องควบคุมและพาผู้ต้องหาออกไป จึงได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ ให้ดำเนินคดีกับดาบตำรวจนายดังกล่าว ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ให้ออกหมายจับดาบตำรวจ ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ที่ต้องขัง ตามอำนาจของพนักงานสอบสวนหรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา กระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้ที่อยู่ในระหว่างคุมขังนั้นหลุดพ้นจากการคุมขังไป และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ภาพจากอีจัน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมตัวดาบตำรวจ ตามหมายจับ ก่อนส่งตัวฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ต.อ.สายชล กล่าวต่อว่า เบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่าเป็นผู้ไขกุญแจห้องขัง เนื่องจาก ผู้ต้องหาปวดท้อง จะขอยากิน ก็เลยไปไขกุญแจห้องขัง และผู้ต้องหาก็บอกอีกว่าจะขอไปกินยาบนห้อง แต่พอขึ้นไปถึงห้อง ผู้ต้องหาก็บอกอีกว่า จะขอเข้าห้องน้ำ อยากอาบน้ำ ก็เลยให้อาบน้ำ ส่วนดาบตำรวจนั้นหลับไป ส่วนผู้ต้องหาหายไปตอนไหนนั้นไม่ทราบ ซึ่งนี่เป็นคำกล่าวอ้างของนายตำรวจ แต่ทางเรายังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งยังต้องทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป ส่วนการอนาจารนั้น ต้องจับกุมตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีให้ได้ก่อน ซึ่งผู้ต้องหาจะเป็นกุญแจสำคัญที่เราจะทำการสอบสวนว่าหลังจากที่ออกจากห้องควบคุมนั้นได้ไปไหน และทำอะไรบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ผบช.น. ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด ทั้งอาญาและวินัย รวมถึงให้นายดาบตำรวจคนดังกล่าว ออกจากราชการแล้ว เนื่องจากเป็นการกระทำผิดร้ายแรง ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือกันเองอย่างแน่นอน ส่วนรายละเอียดอื่น ไม่สามารถเปิดเผยได้ เกรงจะกระทบรูปคดี พ.ต.อ.สายชล กล่าวในตอนท้าย