ตำรวจชุดสืบสวนได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามท่าน้ำในละแวกที่พบศพกว่า 100 ตัว
จนกระทั่ง พบเบาะแสสำคัญ!
ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 เปิดเผยว่า เมื่อได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 7 ก.ย.63 ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ปากคลองสาน พร้อมหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ก็ได้เข้าตรวจสอบบ้านเช่าของผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าว
ก่อนพบ นายอัณณพ อายุ 62 ปี เป็นผู้เช่าบ้าน ซึ่งนายอัณณพ ได้ยอมรับว่า ศพสาวปริศนาที่พบ คือ นางวาสนา อายุ 59 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นภรรยาของตนเอง
นายอัณณพ เล่าด้วยความรันทดว่า ตนมีอาชีพสานตะกร้อครอบปากสุนัขขาย แต่รายได้ไม่ค่อยดีต้องอดมื้อกินมื้อ ก่อนหน้านี้หลายปีเคยเลิกรากับผู้ตายไปแล้ว จนเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ทราบข่าวว่าผู้ตายป่วยเป็นมะเร็ง ลุกลามไปทั่วร่างกายจนไม่สามารถลุกเดินไปไหนได้ ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงและไม่มีใครดูแล จึงเดินทางไปรับตัวมาจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อนำมาดูแลที่บ้านเช่า เนื่องจากเห็นว่าเคยเป็นสามีภรรยากัน
จนกระทั่งวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว ด้วยความที่ไม่มีเงินทำศพและไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร พยายามติดต่อหาวัดเพื่อเผาศพภรรยา แต่ทุกแห่งยืนยันว่าต้องใช้เอกสารมรณบัตร แต่ตนไม่มี เมื่อหาทางออกไม่ได้ ศพจึงถูกทิ้งไว้ในห้องนาน 3 คืน จนเริ่มขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น จากนั้น ตนจึงตัดสินใจนำร่างเปลือยเปล่าของภรรยาคลุมด้วยถุงพลาสติกใบใหญ่ทั้งท่อนบนและท่อนล่าง ก่อนนำขึ้นรถจักรยานยนต์ เพื่อไปทิ้งที่ท่าน้ำใต้สะพานพุทธยอดฟ้า จนกระทั่งศพภรรยาลอยขึ้นมาตรงท่าน้ำไม่ไกลจากบ้านเช่าของตน และตำรวจบุกมาจับกุมตัวในที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ผบก.น.8 กล่าวอีกว่า เมื่อผู้ต้องหายอมรับว่า ทำไปเพราะไม่มีทางออก หาเงินทำศพภรรยาไม่ได้ ก็ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ผู้ใดไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ ส่วนของศพ อัฐิหรือเถ้าของศพ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ก่อนควบคุมตัวนายอัณณพ ส่งศาลแขวงธนบุรีเอาไว้ก่อน หลังจากนี้ต้องรอผลยืนยันจากแพทย์ว่า นางวาสนา เสียชีวิตเพราะเหตุใดกันแน่ หากพบว่าสาเหตุไม่ตรงกับคำให้การของ นายอัณณพ ก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้
และอยากฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่า ช่วงนี้วิกฤตเกิดขึ้นทั่วประเทศ หากครอบครัวใดต้องประสบปัญหาในลักษณะนี้ อย่าได้ด่วนตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยวิธีผิดๆ ขอให้ท่านไตร่ตรองและลองมองหาผู้ช่วยคิดก่อน อย่างน้อยโทรศัพท์ปรึกษาตำรวจที่เบอร์ 191 เพื่อให้ตำรวจท้องที่เข้าช่วยเหลือได้