โคราช เด้งผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอ อ้างชื่อ อนุทิน เรียกรับเงิน!

เด้ง ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอ ที่โคราช อ้างชื่อ อนุทิน เรียกเงิน 5 แสน แลกบรรจุราชการ

จากกรณีที่มีผู้แอบอ้างชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกรับเงินบรรจุข้าราชการด่านหน้าสู้โควิด 19 ในตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

อ่านข่าว : อนุทิน เตือนอย่าหลงเชื่อ! แอบอ้างช่วยบรรจุเป็นข้าราชการรุ่นโควิด 

8 กันยายน 2563 นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 และน.ส.ยุพิน ตันวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการกลุ่มเสริมสร้างวินัยและระบบคุณธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงชี้แจงว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการหลอกลวง เนื่องจากหลักการการบรรจุข้าราชการจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติโดยคณะกรรมการระดับจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ ประกอบด้วย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล หัวหน้าส่วนราชการ และนักทรัพยากรบุคคลในจังหวัดนั้น

ภาพจากอีจัน


ซึ่งเมื่อรวบรวมรายชื่อผู้ที่จะเสนอเข้ารับการบรรจุเข้ามายังส่วนกลางแล้ว จะมีการตรวจสอบอีกครั้งโดยกองบริหารทรัพยากรบุคคล หากคุณสมบัติครบจะเสนอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขลงนาม เป็นการตรวจสอบซึ่งกันและกัน ไม่สามารถเสนอหรือชี้ให้ใครบรรจุได้ ทุกอย่างเป็นไปตามมติครม.และระเบียบ กพ. ที่เกี่ยวข้อง

ภาพจากอีจัน


นพ.ยงยศ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กำชับว่าเรื่องทุจริตนี้มีไม่ได้ การบรรจุข้าราชการจะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม ผู้กระทำความผิดเป็นข้าราชการต่ำกว่าระดับเชี่ยวชาญ อำนาจในการบริหารจัดการจึงอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 91 พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งผลการตรวจสอบจากนิติกรของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมีความชัดเจน ทั้งประจักษ์พยานและหลักฐาน

ภาพจากอีจัน


ซึ่งหากมีความผิดทางวินัยร้ายแรงจะมีโทษคือปลดออกหรือไล่ออก กระทรวงสาธารณสุข ขอให้สื่อมวลชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาและสื่อสารประเด็นเหล่านี้

ด้าน นพ.พงศ์เกษม กล่าวว่า จากการสืบข้อเท็จจริงโดยนิติกร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา พบความเป็นมาของเหตุการณ์ว่า ผู้เสียหายเป็นพยาบาลที่ได้รับการบรรจุเป็นลูกจ้างชั่วคราว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งหนึ่ง โดยเดินทางไปรายงานตัวที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอลำทะเมนชัย เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ซึ่งมีพ่อแม่และญาติเดินทางไปด้วย

ทางครอบครัวแจ้งว่า หากมีการบรรจุใหม่ให้ช่วยส่งข่าวเพื่อให้พี่สาวของพยาบาลคนนี้มาสมัคร ผู้แอบอ้างจึงส่งข้อมูลไปทางไลน์ของพยาบาลว่า พี่สาวได้งานทำแล้วหรือไม่ และเสนอว่าสามารถช่วยบรรจุข้าราชการตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุข กลุ่มงานยาเสพติด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาได้ โดยเรียกรับเงิน 550,000 บาท ซึ่งทางพี่สาวไม่ได้สนใจ และมีการปรึกษากับผู้ที่โพสต์เรื่องราวนี้ทางเฟซบุ๊ก จนนำมาสู่การตรวจสอบ

นพ.พงศ์เกษม กล่าวต่อว่า จากการสืบข้อเท็จจริงถือว่าเรื่องนี้มีมูลในเรื่องของการทุจริตหลอกลวง เนื่องจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมายังไม่มีการเปิดรับสมัคร นิติกรจึงได้แจ้งความดำเนินคดีผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอผู้แอบอ้าง เพราะเกิดความเสียหายต่อกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ว่ามีการทุจริตในการบรรจุข้าราชการ

ขณะนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนว่าจะสั่งฟ้องและส่งสำนวนคดีไปให้พนักงานอัยการดำเนินคดีต่อหรือไม่

ส่วนเรื่องความผิดทางวินัย นพ.พงศ์เกษม เผยว่า ได้นำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเพื่อพิจารณาดำเนินการทางวินัยต่อไป และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา จะดำเนินการย้ายผู้แอบอ้างและผู้ถูกเรียกรับเงินออกนอกพื้นที่เพื่อความปลอดภัย