เปิดไทม์ไลน์ล่ามไทย ติดเชื้อโควิด-19 อาการทรุดหนัก ปอดพัง ก่อนเสียชีวิต

สธ.ยันล่ามไทย เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 จากประเทศซาอุฯ อาการทรุดหนัก ปอดติดเชื้อซ้ำ ไม่ตอบสนองยา

(18 ก.ย.63) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และ ผศ.นพ.พจน์ อินทลาภาพร โรงพยาบาลราชวิถี แถลงข่าวกรณีล่ามที่เดินทางจากซาอุดิอาระเบีย เสียชีวิตเพราะติดเชื้อโควิด-19


ภาพจากอีจัน
ผู้ป่วยรายนี้ เป็นชายไทย อายุ 54 ปี อาชีพล่าม ของสำนักแรงงานไทย ที่ทำงานอยู่ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย อาศัยอยู่ที่นั้นมาแล้ว 10 กว่าปี ผู้ป่วยรายนี้ไม่สบาย ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.63 เริ่มมีอาการนิดหน่อย นับเป็นผู้ป่วยในไทยรายที่ 3,430 ไล่ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายนี้ 21 ก.ค.63 ได้รับการตรวจที่ประเทศซาอุฯ ตรวจเจอเชื้อโควิด-19 ร่วมกับมีภาวะวิกฤตทางระบบการหายใจ ขณะนั้นยังไม่ได้แอดมิท รักษาตัวอยู่ที่บ้าน 26 ก.ค.63 มีอาการมากขึ้น หายใจไม่ทั่วท้อง มีไข้ ไอ ก็เลยไปโรงพยาบาล ได้รับการแอดมิท รักษาตัวในโรงพยาบาล King Fahad Medical City นอนที่โรงพยาบาลได้ประมาณ 4-5 วัน อาการแย่ลง 31 ก.ค.63 ต้องย้ายจากวอร์ดสามัญไปที่ ICU 10 ส.ค.63 คนไข้มีอาการหยุดหายใจ ต้องปั๊มหัวใจ และใส่ท่อช่วยหายใจ นี่คือรายละเอียดที่ได้รับรายงานจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของผู้ป่วยรายนี้ ผลเป็นบวกครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 21 ก.ค.63 ผลเป็นบวกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 ส.ค.63 ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทยมีการตรวจซ้ำอีกครั้ง ผลเป็นลบครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 ส.ค.63 ผลเป็นลบครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.63
ภาพจากอีจัน
หลังจากนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้รับการประสานงานจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ขอส่งตัวผู้ป่วยกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย 1 ก.ย.63 เวลา 20.30 น. เดินทางออกจากกรุงริยาด โดย Air Ambulance พร้อมทีมแพทย์พยาบาลอินโดนีเซีย เนื่องจากไม่มีทีมแพทย์ไทยอยู่ที่นั่น ขณะที่นำส่ง แพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจ ใช้เวลาเดินทาง 10 กว่าชั่วโมง เวลา23.30 น. รถพยาบาลชั้นสูง พร้อมอุปกรณ์ ทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่กู้ชีพเดินทางออกจากโรงพยาบาลราชวิถีไปยังสนามบินดอนเมือง ถึงไทย วันที่ 2 ก.ย.63 เวลา 01.30 น. ทีมแพทย์ศูนย์กู้ชีพนเรนทร รพ.ราชวิถี รับผู้ป่วยจาก Air Ambulance ด้วย Patient Isolation Transport Unit พร้อมติดตามอาการและสัญญาณชีพตลอดการนำส่ง 3 ก.ย.63 เวลา 08.00 น. ผู้ป่วยมีการหอบเหนื่อยเหนื่อยมากขึ้น แพทย์จึงใส่ท่อช่วยหายใจ และได้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำ ผู้ป่วยรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี ตั้งแต่วันที่ 3-18 ก.ย.63 อาการทรงๆทรุดๆมาตลอด ผศ.นพ.พจน์ อินทลาภาพร โรงพยาบาลราชวิถี เผยว่า ประเมินอาการช่วงแรก ผู้ป่วยมีอาการปอดอัดเสบจากแบคทีเรีย ดื้อยา มีอาการแทรกซ้อน ที่เป็นอาการเดิมก่อนส่งตัวกลับมาไทย ระบบทางเดินหายใจและปอดด้านขวามีเงาทึบ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ป่วยมีภาวะปอดอักเสบจากโควิด-19 ช่วงที่รักษา ก่อนเดินทางเข้ามาในไทย ผู้มีป่วยมีหัวใจหยุดเต้นไป 1 ครั้ง ก็ได้ทำการปั๊มหัวใจ อาจจะมีผลทำให้ กล้ามเนื้อหัวใจมีการบาดเจ็บ เมื่อดูแลต่อเนื่องจนถึงไทย ตรวจคลื่นหัวใจ มีความผิดปกติอยู่ มีความเสี่ยงที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ ผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง น้ำตาลในเลือดสูงถึง 100-140 เมื่อมีการติดเชื้อซ้ำจากแบคทีเรียจะมีความยุ่งยากในการรักษา แพทย์ให้ยาปฏิชีวนะหลายขนาด มีการตอบสนองไม่ดี อีกทั้งผู้ป่วยยังมีอาการปอดอักเสบต่อเนื่อง ทำให้สภาพร่างกายทรุดลงอย่างรวดเร็ว ร่วมกับการทำงานของอวัยวะอื่นล้มเหลว ระบบเลือด ไตวายจากการติดเชื้อ ปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน จึงทำให้ผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบ ไม่พบคนที่เกี่ยวข้องผู้ป่วยรายนี้เพิ่มเติม การควบคุมโรคเป็นไปตามมาตรฐาน ดังนั้น ผู้ป่วยรายนี้ จึงนับเป็นผู้เสียชีวิตในไทยรายที่ 59 อีจันขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ