วันนี้ (27 ก.ย.63) ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ เดินทางเข้าพบตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อขอลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน หลังทราบข่าวจากสื่อต่างๆ เพื่อให้ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดในวันอื่นๆ ที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่ใช่แค่วันเกิดเหตุ เพราะสงสัยว่าลูกก็น่าจะถูกทำร้าย เนื่องจากกลับบ้านมามีรอยแดงช้ำตามแขน โดยลูกบอกว่าถูกยุงกัด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด้าน น.ส.กัลป์นัชยา อายุ 34 ปี แม่น้องอชิ กล่าวว่า วันนี้นำภาพจากกล้องวงจรปิดคลิปใหม่มาแจ้งความดำเนินคดีกับครูผู้ชายขณะทำร้ายลูกชาย แสดงว่าไม่ได้มีแค่ครูจุ๋มคนเดียวที่ทำร้ายเด็ก ตนเห็นแล้วรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราทำงานหนักหาเงินเพื่อส่งให้ลูกได้เรียนโรงเรียนดีๆ แต่ลูกต้องมาเจอแบบนี้ คนเป็นพ่อแม่แทบหัวใจสลาย ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ต่อมา นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.สถิตพร บุณยรัตพันธุ์ ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ ขอให้ดำเนินการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 310 แก่ครูหรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบทุกคนขณะเกิดเหตุในฐานะตัวการร่วมหรือ เป็นผู้สนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด
นายรณรงค์ กล่าวว่า จากกรณีที่นางสาวอรอุมา ปลอดโปร่ง ซึ่งเป็นครูในสังกัดโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ได้ทำร้ายร่างกายนักเรียนชั้นอนุบาล 1 มีผู้ปกครองแจ้งเพิ่มเติมว่า เด็กนักเรียนบางคนถูกลงโทษด้วยวิธีการขังในห้องน้ำโรงเรียนเป็นเวลานาน ทำให้เด็กได้รับอันตรายด้านจิตใจและเป็นการจำกัดเสรีภาพ ไม่ให้ออกไปไหน ให้เด็กอยู่ในที่กำหนด โดยมีขอบเขตจำกัด โดยที่เด็กไม่สมัครใจ มีอาการหวาดระแวง กลัวการไปโรงเรียน ตื่นขึ้นมาผวาตอนกลางคืน บางครั้งมีอาการหลอนพูดจาคนเดียว และหวาดกลัวการเข้าไปอยู่ในห้องแคบๆ คนเดียว แต่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีความเห็นทางกฎหมายในประเด็นนี้ จึงอยากให้สอบสวนเพิ่ม
หลังจากนั้น นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มผู้ปกครองเพื่อสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลากว่า 1 ชม. ก่อนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นผู้ที่กำกับดูแลโรงเรียนเอกชนโดยตรง ต้องขอแสดงความห่วงใยผู้ปกครองทุกคนและขอให้กำลังใจ วันนี้ตนมารับฟังในฐานะที่เป็นแม่คนหนึ่ง เรายืนเคียงข้างความถูกต้อง ตอนนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เชิญผู้ปกครองนักเรียนพร้อมตัวแทนของโรงเรียนเข้ามาพูดคุยกันที่กระทรวงศึกษาธิการในวันพรุ่งนี้ (28 ก.ย.63)เวลา 09.00 น.เพื่อหาข้อยุติโดยเร็วที่สุดเพื่อให้เกิดความสบายใจทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง
ส่วนปัญหาที่ได้รับฟังไม่ได้มีเพียงมิติที่นักเรียนถูกทำร้าย แต่ยังมีมิติอื่นที่ผู้ปกครองได้นำเสนอ ซึ่งจะต้องสร้างมาตรฐานที่ถูกต้องและบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ทีมงานที่อยู่ในส่วนของรัฐมนตรีต้องเป็นคณะกรรมการที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะให้เกิดความชัดเจนและเกิดความสบายใจ นอกจากนี้เราจะดูว่าการที่โรงเรียนสารสาสน์รับผู้ช่วยครูมามีกระบวนการอย่างไรบ้าง รวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของทางโรงเรียนกับที่ปฏิบัติกับนักเรียนตรงกันหรือไม่