หลังจากเมื่อวาน (28 ก.ย.63) ตำรวจ ตม.นนทุบรี ได้ตรวจสอบนายมาร์วิน ลิวานัก โอเรโฮล่า อายุ 25 ปี ชาวฟิลิปปินส์ ครูสอนภาษาอังกฤษ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ที่ปรากฏในภาพวงจรปิดห้องอนุบาล โดยมีลักษณะทำร้ายร่างกายเด็ก ด้วยการกระชากแขน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายมาร์วิน ไม่มีเวิร์คเพอร์มิต และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงคุมตัวไปแจ้งความต่อตำรวจร้อยเวร สภ.ชัยพฤษ์ ในข้อหาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
ภาพจากอีจัน
ล่าสุด วันนี้ (29 ก.ย.63) ศาลแขวงนนทบุรีพิจารณาคดี สอบจำเลย ผ่านล่ามภาษาอังกฤษ โดยจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มาตรา 8, 101 วรรคหนึ่ง ปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 5,000 บาท ภาพจากอีจัน
ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสาร พบว่า นายมาร์วินเดินทางเข้าประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 26 ม.ค.63 จากนั้นได้ยื่นเอกสารขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 ก.ย.63 เนื่องจากไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้จากสถานการณ์โควิด -19 และได้ยื่นเรื่องขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 ต.ค.63 โดยเรื่องยังอยู่ในระหว่างรออนุมัติ ด้านนายมาร์วินได้ไปสมัครเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ โดยเริ่มงานวันที่ 16 ก.ค.63 ได้รับค่าจ้างเดือนละ 20,000 บาท โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งทางโรงเรียนแจ้งว่าอยู่ระหว่างทดลองงานจึงไม่มีหนังสือสัญญาว่าจ้าง ส่วนในเรื่องของวีซ่าของนายมาร์วิน ทาง พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ใจหลวง ผกก.ตม.จ.นนทบุรี เผยว่า จะดำเนินการจะเพิกถอนวีซ่า เเละผลักดันให้กลับประเทศต่อไป หรือรอจนกว่าคดีความในประเทศไทยจะสิ้นสุด ส่วนคดีทำร้ายร่างกายนักเรียนนั้น หากทางพนักงานสอบสวนพบว่ากระทำความผิดจริงก็อายัดตัวไว้ดำเนินคดีเพิ่มเติม