ศบค.ไฟเขียว เปิดรับนทท.จีนเข้าไทย 8 ต.ค.นี้

ยืนยันแล้ว! 8 ต.ค.นี้ เปิดรับ นทท.ต่างชาติประเภทพิเศษ (STV) จากประเภทจีน 120 คน เที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ จ.ภูเก็ต

เคาะแล้ว! 8 ต.ค. 2563 เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกจากประเทศจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซามาหลายเดือน
หลังรัฐบาลไฟเขียวเปิดประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย
ล่าสุดเมื่อวานนี้ 29 ก.ย. 2563 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยว่า หลังการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุมรับทราบรายงานการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) หรือ การเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้แบบจำกัดจำนวน โดยเรื่องนี้ผ่านมติ ครม. แล้ว

โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่จะเข้ามาคือนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน จากเมืองกว่างโจว ประมาณ 120 คน ซึ่งจะบินมาท่องเที่ยวที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต แต่นักท่องเที่ยวทุกคนที่เข้ามาจะต้องปฏิบัติตามระเบียบดังนี้
1. เมืองกว่างโจว เป็นเมืองที่ไม่มีการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ หรือปลอดเชื้อมานานหลายเดือนแล้ว

2. นักท่องเที่ยวต้องได้รับการตรวจว่าไม่มีเชื้อ COVID-19 จากต้นทาง 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย

3. มีการจองสถานที่ ASQ (Alternative State Quarantine) ไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นเวลา 14 วัน

4. มีการทำบัตรประกันสุขภาพ กรมธรรม์คุ้มครอง 100,000 เหรียญสหรัฐ เมื่อเกิดเจ็บป่วยจะสามารถรักษาพยาบาลได้ตามความคุ้มครอง โดยไม่กระทบกระเทือนค่าใช้จ่ายประเทศไทย

5. ทำวีซ่าเข้าประเทศเบื้องต้น 90 วัน หากมีความต้องการอยู่ต่อจะต่อวีซ่าให้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 90 วัน รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 270 วัน

6. ต้องทำตามมาตรการสาธารณสุขของไทยอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม

ภาพจากอีจัน


และที่สำคัญ การเดินทางมาไทยครั้งแรกของนักท่องเที่ยวจีน คือ วันที่ 8 ตุลาคม 2563 หลังจากตรวจคัดกรองก็จะเข้ากักตัวยังสถานที่ ASQ สนามบินภูเก็ตจะเป็นด่านแรกที่ต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคตามปกติ สำหรับ ASQ ที่ได้ถูกกำหนดเอาไว้มีอยู่ในหลายจังหวัด เช่น จ.ภูเก็ต จ.บุรีรัมย์ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวแสดงความจำนงกักตัว 14 วัน ซึ่งต้องกักทุกคนไม่มีข้อยกเว้น โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวสัปดาห์ละ 300 คน

ภาพจากอีจัน
แต่ในการดำเนินการจะต้องทำอย่างเป็นขั้นตอน คือ มีการกำหนดมาตรการกักตัวเพื่อเฝ้าระวัง 14 วัน หากดีขึ้นก็จะลดเหลือ 7 วัน และ 6 ชั่วโมง ตามลำดับ และเมื่อผ่านการตรวจคัดกรองเชื้อแล้ว ไม่พบการติดเชื้อ ก็สามารถเดินทางต่อได้เลย ได้ประสานงานกับการท่องเที่ยวในพื้นที่ คอยอำนวยความสะดวก ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ต้องถูกกักตัวเป็นไปตามเกณฑ์ เช่นเดียวกับคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเข้าพักในสถานกักกันตัวทางเลือก (ALSQ) ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี 1 แห่ง / บุรีรัมย์ 1 แห่ง / ภูเก็ต 3 แห่ง หากประสบความสำเร็จ และไม่มีผลกระทบ จะขยายจำนวนต่างชาติที่เข้าไทย และขยายจังหวัดเพิ่มเติม เน้นในจังหวัดที่มีสนามบินเป็นของตัวเอง และที่สำคัญต้องมีโรงแรมที่ผ่านเกณฑ์ ASQ เช่น กระบี่ เชียงใหม่ เกาะสมุย พัทยา เป็นต้น ซึ่งข้อมูลนี้อีจันได้ติดต่อไปยัง นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. และได้รับการยืนยันแล้วว่าจะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวจริง แต่ทุกขั้นตอนการเปิดรับมีการตรวจคัดกรองและการป้องกันเป็นอย่างดีแน่นอน แม้ทาง ศบค.จะออกมายินยัน แต่ก็มีประชาชนบางกลุ่มที่ยังกังวลเรื่องการแพร่ระบาด ต้องลุ้นกันว่าการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวครั้งนี้จะดีหรือไม่ดีอย่างไร