กรม สบส.ประสาน สสจ.เชียงใหม่ เร่งไขปมสาวดับจากสารทึบรังสี

กรม สบส. เร่งคลายข้อสงสัย! ปมเภสัชกรสาวแพ้สารทึบรังสีดับ ประสานข้อมูล สสจ.เชียงใหม่ สั่งตรวจสอบมาตรฐานการรักษา

จากกรณีทันตแพทย์ ท่านหนึ่ง โพสต์เรื่องราวที่เภสัชกรสาว ภรรยา อายุ 35 ปี เข้าตรวจอาการปวดท้องน้อยที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับเสียชีวิตลงในวันเดียวกัน จากอาการแพ้สารทึบรังสี ที่ทางโรงพยาบาลได้ฉีดเพื่อทำการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องท้องส่วนล่าง ขณะที่แพทย์บอกว่าตรวจพบการตั้งครรภ์ หลังจากที่ภรรยาเสียชีวิต ซึ่งทางครอบครัวยังติดใจในการตรวจรักษา เชื่อว่าจะมีความผิดปกติในขั้นตอนการตรวจรักษา

อ่านข่าวเก่า : ทันตแพทย์หนุ่มติดใจ รพ.เอกชน เตรียมร้องแพทยสภา

วันนี้(1 ต.ค. 63) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสุนนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ มาตรฐานปลอดภัยตามความประสงค์ ตนได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย และศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1 กรม สบส. ประสานขอความร่วมมือจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ เข้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดย สสจ.เชียงใหม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบมาตรฐานของโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 และในส่วนของกรม สบส.ก็ได้มีการประสานขอประวัติผู้ป่วย และเอกสารทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล ในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลเอกชนได้ชี้แจงว่า แพทย์พบผู้เสียชีวิตมีประวัติของอาการปวดหน่วงท้องและแสบเวลาปัสสาวะ มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อต้นเดือนกันยายน 2563 จึงเชื่อว่าไม่มีการตั้งครรภ์ อีกทั้งไม่มีประวัติการแพ้ยาและอาหารใดๆ จึงได้ดำเนินการเอกซเรย์

ภาพจากอีจัน



อย่างไรก็ตามกรม สบส.จะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแพทยสภา ตรวจสอบมาตรฐานการรักษา เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อสาเหตุการเสียชีวิต และคลายข้อสงสัยของญาติผู้เสียชีวิต ว่าโรงพยาบาลฯ มีการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินเบื้องต้นตามมาตรฐานวิชาชีพ และมีการสั่งการวินิจฉัยโรคเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ หากพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานก็จะมีการดำเนินการด้านจริยธรรมกับแพทย์ผู้ให้บริการ รวมทั้งผู้ดำเนินการสถานพยาบาลก็จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ในฐานไม่ควบคุมดูแลให้แพทย์ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ว่าด้วยการประกอบวิชาชีพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ กรม สบส.พร้อมให้ความเป็นธรรมกับผู้บริโภคทุกคน หากประสบปัญหาการรักษาพยาบาล หรือบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลเอกชน สามารถแจ้งที่สายด่วน กรม สบส 1426 ในวันและเวลาราชการ