รถชนต่อหน้า ! ขณะ วสท.ให้สัมภาษณ์สื่อเรื่องการแก้ปัญหาโค้ง 100 ศพ รัชดา

สุดช็อก ! ขณะ วสท.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เกิดรถชนต่อหน้าต่อตา! หลังลงพื้นที่ตรวจสอบ โค้งมรณะ รัชดาภิเษก พบปัญหาหลายอย่าง ต้องเร่งแก้ไข

หลังจากที่ถนนรัชดาภิเษก ช่วงโค้งหน้าศาลอาญาเกิดอุบัติเหตุต่อเนื่องมากว่า 10 ปี จนได้รับฉายาว่าเป็น "โค้ง 100 ศพ" "โค้งศาลอาญา" หรือ "โค้งมรณะ" ซึ่งสถิติในปี 2563 นี้ ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.-ก.ย. เกิดอุบัติเหตุบนโค้งนี้มากถึง 293 ครั้ง บาดเจ็บ 152 ราย เสียชีวิต 5 ราย โดยแบ่งเป็นเดือน ส.ค.มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และ เดือน ก.ย. เสียชีวิตอีก 4 ราย ภายในเวลา 1 สัปดาห์
และจากการที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ถนนแห่งนี้บ่อยครั้ง ทำให้ในวันนี้ (1 ต.ค.63) วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบบริเวณโค้ง 100 ศพ หรือโค้งศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
โดยในขณะที่ศาสตราจารย์ ดร.พิชัย ธานีรณานนท์ ประธานคณะอนุกรรมการสาขาป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและการเสียชีวิต วสท. พร้อมกับ นายธนัญชัย เมฆประเสริฐวานิช ผอ.กองนโยบายเเละแผนงาน กำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอยู่ตรงบริเวณฟุตบาทริมถนนตรงช่วงโค้งศาลอาญานั้น ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ! เมื่อรถฝั่งขาเข้า ได้มีรถยนต์ส่วนบุคคล ชนท้ายกันทันที ซึ่งจากการสังเกตไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เพราะเป็นช่วงเวลารถติด รถที่ขับมาจึงไม่ได้เร็วมาก ส่วนหน้ารถยนต์คันที่ขับมาชนท้ายเสียหายพอสมควร ทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดชั่วคราว หลังเวลาผ่านไปไม่นาน ทุกอย่างก็คลี่คลาย การจราจรกลับสู่สภาวะปกติ
ภาพจากอีจัน
โดย ศาสตราจารย์ ดร.พิชัย ธานีรณานนท์ ยังคงให้สัมภาษณ์ต่อว่า ถนนรัชดาเป็นถนน 8 เลน โดยแบ่งเป็นฝั่งขาเข้าเมือง 4 เลน และฝั่งขาออก 4 เลน โดยช่วงโค้งถนนถัดจากอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ผ่านซอยรัชดา 36 (เสือใหญ่อุทิศ) ถึงซอยรัชดา 32 มีรัศมีโค้งกว้างมาก ความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร ซึ่งทางโค้งนี้มีลักษณะแบบโค้งหลังหัก (Broken Back Curve) คือโค้งที่มีสองรัศมีซึ่งเชื่อมด้วยเส้นตรงสั้น และพื้นถนนไม่มีการยกโค้ง แต่เดิมอุบัติเหตุมักจะเกิดที่ฝั่งขาออก แต่หลังจากอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน-รัชดา สร้างเสร็จแทนแยกไฟแดง ทำให้อุบัติเหตุเปลี่ยนมาอยู่ฝั่งขาเข้าเมือง เนื่องจากรถลอดอุโมงค์มักจะต้องเร่งความเร็วตลอดมาจนถึงโค้งถนน ซึ่งไม่มีกลไกชะลอความเร็วของรถลง ดังนั้น หากความเร็วรถวิ่งมาสูงกว่าความเร็วบังคับ ผู้ขับจะควบคุมรถได้ยากหรือไม่สามารถควบคุมรถให้วิ่งตามแนวเส้นทางได้ นอกจากนี้ อุบัติเหตุส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในเวลากลางคืน หรือในช่วงที่ทัศนะวิสัยแย่ เช่น ขณะฝนตกในยามดึก ถนนโล่งทำให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
ภาพจากอีจัน
ซึ่งจากการลงพื้นที่ในวันนี้ พบปัญหาบริเวณถนนแห่งนี้หลายอย่าง 1.ลักษณะทางโค้งแบบโค้งหลังหัก (Broken Back Curve) คือโค้งที่มีสองรัศมีซึ่งเชื่อมด้วยเส้นตรงสั้น โดยธรรมชาติผู้ขับขี่เมื่อเข้าโค้งก็ไม่คิดว่าจะต้องปรับพวงมาลัย ทำให้ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากที่จะควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร หรือหากขับมาด้วยความเร็วสูงกว่า 80 กม./ชม.(หรือต่ำกว่ากรณีที่ฝนตก) มักจะไม่สามารถควบคุมรถให้อยู่ในแนวช่องจราจรได้ หรือควบคุมรถไม่ได้เลย ข้อเสนอแนะ ควรแก้ไขทางโค้งหลังหัก ให้เป็นทางโค้งเดียวกัน โดยวิศวกรออกแบบที่เชี่ยวชาญ เพิ่มการนำทางโค้ง โดยการติดตั้งเครื่องหมายจราจรบนผิวทางแบบสะท้อนแสงที่แนวด้านนอกขอบโค้ง และติดตั้งป้ายบังคับความเร็วที่ปลอดภัยในการขับขี่ ให้ประชาชนผู้ใช้รถสามารถเห็นได้ชัดเจน บนผิวถนน และ ป้ายบังคับความเร็วอิเล็คทรอนิกส์แบบแขวนสูง 2. ไม่มีการยกโค้ง (Superelevation) ทำให้รถที่วิ่งเข้าสู่ทางโค้งด้วยความเร็วสูงกว่าความเร็วบังคับ จนไม่สามารถควบคุมรถให้วิ่งตามแนวเส้นทางได้ ข้อเสนอแนะ เพิ่มแรงด้านข้างบนล้อรถ Sideway Force โดยการยกโค้งด้านนอกให้สูง เพื่อให้บังคับล้อรถให้วิ่งเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย หรือวิธีอื่น เช่น ปูผิวด้วยหินเล็ก (Chip seal) เพื่อลดความเสี่ยงการเสียหลักหลุดโค้งออกไป 3. ขาดกลไกชะลอความเร็วของรถยนต์ (Traffic Calming) ทำให้รถที่วิ่งจากอุโมงค์ทางลอดเข้าสู่ทางโค้งด้วยความเร็วสูงกว่าความเร็วบังคับ จนไม่สามารถควบคุมรถให้วิ่งตามแนวเส้นทางได้ ข้อเสนอแนะ ต้องหามาตรการและออกแบบอุปกรณ์ เพื่อใช้ชะลอความเร็ว ให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งอาจทำได้หลายวิธี เช่น การกั้นแต่ละเลนจราจร ในช่วงโค้งอันตราย, การทำระบบดิจิทัลบอกความเร็วของรถที่วิ่งผ่าน ควบคู่มาตรการทางกฎหมาย, ป้ายแนะนำความเร็ว เปลี่ยนเป็นป้ายบังคับใช้ความเร็วที่กำหนด เป็นต้น ทั้งนี้ จะได้หารือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยอาจมีระยะทดลองเพื่อประเมินผลและปรับพัฒนามาตรการ 4. มีทางแยกเข้า-ออกซอย บริเวณทางโค้ง (ซอยรัชดา 36 เสื่อใหญ่อุทิศ) ซึ่งประชาชนผู้ขับขี่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน และทางซอยนี้มีปริมาณรถเข้าออกจำนวนมาก ข้อเสนอแนะ ให้มีการพิจารณาปรับปรุงช่องจราจรและเครื่องหมายจราจร บริเวณก่อนทางเข้า-ออกซอย เพื่อช่วยให้รถที่วิ่งมาสามารถสังเกตเห็นทางเชื่อมในบริเวณทางโค้งได้อย่างชัดเจนมากขึ้น หรือจัดช่องจราจรช่องซ้ายสุดให้เป็นช่องเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดา 36 เสือใหญ่อุทิศ 5. ราวเหล็กที่เกาะกลางถนนและขอบทางเท้า สังเกตได้ว่าราวเหล็กมีระยะร่นจากขอบทางเข้าไปอีกประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของราวเหล็กที่จะป้องกันอันตรายจากรถชนนั้นลดลงไปอีก อีกทั้งราวเหล็กยังอยู่ชิดกับเสาไฟฟ้าอีกด้วย รถที่เสียหลักจะพุ่งเข้าชนขอบทางเท้าก่อนและจะเหินขึ้นไปชนราวเหล็กกันอันตรายนี้ ข้อเสนอแนะ ควรพิจารณาจัดสร้างราวกันชนแบบคอนกรีตหุ้มวัสดุยางโดยต้องชิดขอบทางเท้า วัสดุยางหุ้มช่วยลดแรงกระแทก หรือราวกันชนแบบโรลเลอร์ ซึ่งขณธนี้ทาง กทม.ได้รับงบประมาณแล้วแต่สำหรับจุดอื่นของถนน 6.พื้นผิวจราจร ในช่วงโค้งศาลอาญานี้ พบว่าพื้นผิวจราจรไม่เรียบ มีการสึกกร่อนของยางมะตอย เศษหินแตกออกมา ฝนตกจะมีหลุมน้ำขัง เหล่านี้มีส่วนทำให้รถที่วิ่งมาล้อแฉลบ การควบคุมรถอาจเกิดความเสี่ยงได้ ข้อเสนอแนะ ปรับผิวจราจรให้มีสภาพดีและเรียบตามมาตรฐาน 7.ฟังก์ชั่นของถนนในเขตเมือง กฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต่างจากดีไซน์ การออกแบบถนนไฮเวย์ที่สามารถรองรับความเร็วได้มากกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ข้อเสนอแนะ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้ระมัดระวังควบคุมความเร็วของรถให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ในระยะยาวต้องมุ่งเน้นการพัฒนาหลักสูตรและปลูกฝังทัศนคติความปลอดภัยแก่พลเมืองตั้งแต่วัยเด็กในโรงเรียน 8.ผลักดันแนวคิด "Thailand Towards Zero Deaths แนวทางลดการตายและผู้บาดเจ็บสาหัสบนถนนให้เป็นศูนย์" ประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนแนวคิดใหม่ เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาอัตราการตายและบาดเจ็บสาหัสบนถนนอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยวิถีแห่งระบบที่ความปลอดภัย The Safe System Approach ทีองค์การสหประชาชาติแนะนำให้ทุกประเทศนำไปใช้ในการลดการตายและบาดเจ็บสาหัสบนถนน เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย "Thailand Towards Zero Deaths and Serious Injuries" ทั้งนี้ ทาง วสท.และกรุงเทพมหานคร จะร่วมกันขับเคลื่อนแผนดำเนินงานให้ออกมาเป็นรูปธรรมและบูรณาการ โดยทางกรุงเทพมหานครรับในหลักการและจะทำเป็นแผนเร่งด่วนที่ทำได้เร็ว (Quick Win) และแผนระยะยาว ที่ต้องใช้เวลาและเสนองบประมาณ ลด "การตายบนถนนไทย" ให้เป็นศูนย์ Thailand Towards Zero
ภาพจากอีจัน