ชาวช้างสุรินทร์ บุกร้องทุกข์รัฐบาล ช่วยช้างตกงานด้วย

ทางออกสุดท้าย! ชาวช้างสุรินทร์ ร่วม 10 ชีวิต หอบหนังสือร้องทุกข์บุกทำเนียบฯ ร้องรัฐบาลช่วยช้างตกงานด้วย

ใกล้สุดกำลังเเขนการช่วยเหลือช้างตกงานของสังคมอีจันเเล้ว เดือน ตุลาคมนี้ถือเป็นเดือนสุดท้ายที่สังคมอีจันรับผิดชอบอาหารช้างตกงาน 120 เชือก หลังจากเราดำเนินการมาเเล้ว 3 เดือน เเละเดือนนี้เป็นเดือนที่ 4 หมดระยะเวลาการช่วยเหลือ!

อ่านข่าว

3 เดือนที่ผ่านมา ชาวช้างทุกข์น้อยลง เพราะเขาได้เเบ่งเบาค่าอาหารทุกๆสัปดาห์ ออกหาอาหารช้างน้อยลง ช้างอิ่มมากขึ้นเพราะยังไงก็มีหญ้าเเละต้นสับปะรดรออยู่ เเต่ตอนนี้นับถอยหลังสุข เเละทุกข์กำลังจะเกิด เมื่อความช่วยเหลือของสังคมอีจันหมด เเต่ปางยังปิดตัวไม่มีวี่เเววว่าจะเปิดเเม้สถานการณ์โควิด-19 ในไทยจะดีขึ้น เเต่เเน่นอน 80% ของนักท่องเที่ยงในปางช้างมาตาก ต่างประเทศ ทางออกสุดท้ายคือหันหน้าพึ่งรัฐบาลช่วยพวกเขาด้วย


ภาพจากอีจัน


ล่าสุดวันนี้ 5 ก.ย.2563 ควาญช้าง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ร่วม 10 ชีวิต หอบชีวิตหอบความหวังมุ่งหน้าร้องทุกข์ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ชาวช้างมีเพียงหนังสือร้องทุกข์เเละใจที่เด็ดเดี่ยวที่พวกเขานำมาวันนี้

โดยการร้องเรียนวันนี้ “กลุ่มคนเลี้ยงช้าง ขอร้องทุกข์ต่อรัฐบาล ด้วยเรื่องกลุ่มคนเลี้ยงช้าง จังหวัดสุรินทร์เเละบุรีรัมย์ ได้นำช้างไปรับจ้างตามผู้ประกอบการปางช้าง ต่างๆ เช่น พัทยา, เชียงใหม่,กาญจนบุรี และถูเก็ต ฯลฯ ซึ่งช้างทั้งหมดเป็นช้างที่มีตั๋วรูปพรรณเเละเอกสารถูกต้องตามกฏหมายทุกเชือก เเละไม่ได้นำไปเร่ร่อนตามกฏหมาย ม.44 ที่รัฐบาลกำหนด

เเต่หลังจากวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ปางช้างจำใจต้องปิดตัวชั่วคราว บางปางต้องปิดถาวร ช้างเเละคนเลี้ยงช้างต้องนำช้างกลับถิ่นฐานจากที่มีรายได้ทุกเดือน ทุกอย่างกลายเป็นศูนย์ อาหารช้างเริ่มหมด ใน 1 วัน ช้าง 1 เชือกต้องกินอาหารอย่างน้อย 350 กก. ซึ่งเมื่อไม่มีอาหารไม่มีรายได้ ช้างก็ต้องอด ปัญหานี้ถือเป็นปัญหาใหญ่มากในตอนนี้ ควาญช้างจึงร้องขอเงินเยียวยาจากรัฐบาล 30,000 บาท/เดือน ต่อช้าง 1 เชือก จนกว่าช้างจะได้กลับไปอยู่ปาง

ภาพจากอีจัน



โดยชาวช้างได้นำเอกสารได้เข้าพูดคุยกับ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นานกว่า 1 ชม.โดยได้ข้อสรุปว่า ทางรัฐบาลจะรับเรื่องร้องเรียนไว้ เเละนับจากนี้อีก 15 วัน นายสุภรณ์ จะลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบความเดือดร้อน เเละจะหาทางเเก้ปัญหาต่อไป พร้อมกับตรวจสอบข้อเท็จจริงหากช้างจำนวน 202 เชือกนี้ มีช้างที่ผิดกฏหมายถูกสวมตั๋วรูปพรรณทางรัฐบาล จะไม่ขอช่วยเหลือใดๆ

หลังจากการพูดคุยเสร็จควาญช้างมีสีหน้าที่สดใสขึ้น เเละบอกกับจันว่า วันนี้ใจชื้นมากว่า 80% เเละต่อจากนี้ทางควาญจะประสานงานเพื่อให้การดำเนินการง่ายขึ้น

ภาพจากอีจัน



ซึ่งก่อนกลับศรีสุวรรณ จรรยาในฐานะเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ได้พูดคุยกับชาวช้าง เเละรับปากว่าจะช่วยผลักดันการร้องเรียนครั้งนี้ เพราะช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง พร้อมย้ำจะช่วยเหลือชาวช้างในครั้งนี้อีกเเรง

การมาร้องเรียนครั้งนี้ อาจเป็นเเสงสว่างอีกครั้งของคนเลี้ยงช้าง เอาใจช่วยช้างเเละชาวช้างด้วยนะคะ