ผู้ว่าการรถไฟฯ เผยคนขับรถไฟพยายามหยุดรถสุดความสามารถ แต่คนขับรถบัสอาจไม่ได้ยินสัญญาณเตือน

อุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟคลองกลั่น ไม่ใช่ครั้งแรก ! ผู้ว่าการรถไฟฯ แนะเปิดโต๊ะถกปัญหาจุดตัดทางรถไฟที่ไม่มีไม้กั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแบบนี้ขึ้นอีก !

ความคืบหน้ากรณีอุบัติรถไฟชนกับรถบัสคณะกฐินทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ล่าสุด นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอุบัติเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.05 น. ( วันที 11 ตุลาคม 2563 ) รถบัสหมายเลขทะเบียน 30 – 1479 พระนครศรีอยุธยา วิ่งถึงจุดทางข้ามรางรถไฟใกล้กับสถานีรถไฟคลองกลั่น ต.บางเตย อ.เมืองฉเชิงทรา จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุรถบัสไม่ได้หยุดดู วิ่งขึ้นมาบนทางรถไฟ ทำให้ขบวนรถไฟขนส่งสินค้าที่กำลังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ พุ่งเข้าชนรถบัส ทราบว่าคนขับรถไฟได้พยายามใช้ความสามารถอย่างเต็มที่แล้ว เพื่อจะลดอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งคนขับได้ใช้เบรคฉุกเฉิน พร้อมกับเปิดหวูดแจ้งเตือน และให้สัญญาณไฟเตือนแล้ว แต่คนขับรถบัสอาจจะมองไม่เห็น หรือไม่ได้ยินรถไฟที่กำลังวิ่งมา จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้นมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาพจากอีจัน
นายนิรุฒ ระบุว่า ที่เกิดเหตุเป็นจุดที่ไม่มีไม้กั้นทางรถไฟเพราะไม่ได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นจุดตัดทางรถไฟที่ต้องมีไม้กั้น หลังจากนี้เป็นเรื่องที่ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่า จริงๆแล้วจุดนี้มีสถานะเป็นอย่างไร ควรจะต้องมีไม้กั้น หรือไม่ต้องมีไม้กั้น แล้วเป็นหน้าที่ของใคร เนื่องจากจุดนี้เป็นเส้นทางรถไฟรางคู่ ส่วนข้อมูลที่ระบุว่าสัญญาณแจ้งเตือนของการรถไฟฯ บางครั้งใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ยังไม่สามารถสรุปได้เพราะเป็นการบอกเล่าจากหลายๆฝ่าย แต่จะเห็นได้ว่าทางกายภาพจะมีป้ายแจ้งเตือน ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่ผู้ขับขี่ต้องระวัง สำหรับปัญหาจุดตัดทางรถไฟที่ไม่มีไม้กั้น เป็นเรื่องที่ภาครัฐและภาคประชาชนต้องพูดคุยกันอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแบบนี้ขึ้นอีก ส่วนคนในพื้นที่อาจมองว่าไม่เป็นอันตราย แต่อย่าลืมว่าอาจจะมีคนต่างถิ่นที่ไม่ชินกับถนนเข้ามาแล้วอาจจะไม่ทันระวังในเส้นทางจุดตัดทางรถไฟในจุดนี้ที่ไม่มีไม้กั้น
ภาพจากอีจัน
สำหรับพื้นที่นี้ จากข้อมูลพบว่าเคยเกิดอุบัติเหตุลักษณะนี้ มาแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุที่ใหญ่และรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งถือว่าหลายฝ่ายต้องเร่งพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องคดีปล่อยให้เป็นการสืบสวนของตำรวจ แต่สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือจะทำอย่างไรให้ผู้บาดเจ็บได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดตอนนี้