
อีกแล้ว! วัยรุ่นเลือดร้อนทะเลาะกันกลางร้านเหล้า จบชีวิตทิ้งบาดแผลไว้ให้คนข้างหลัง
วันนี้ 12 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ 02.00 น. พ.ต.ท.กวี ช่วยสร้าง สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต จังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท และไล่แทงกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าหอพักหลังมหาวิทยาลัยรังสิต หมู่ที่ 7 ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
ภายหลังรับแจ้งเหตุ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และแพทย์ จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุพบประชาชนมุงดูกันเป็นจำนวนมาก และพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 ราย สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดอยู่บริเวณริมถนน หน้าอพาร์ทเมนท์ รายแรกไม่ทราบชื่อสภาพศพนอนหงายเสียชีวิต สวมเสื้อเชิดแขนยาวสีฟ้า นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ถูกแทงเข้าที่ใต้ราวนมซ้าย 1 แผล ชายโครงขวา 1 แผล และ มือซ้าย 1 แผล เป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง ช่างยนต์ ชั้น ปวช.3
จากการสอบสวนเพื่อนผู้ตายให้การว่า พวกตนประมาณ 6 คนทั้งชายหญิง ได้มานั่งดื่มเหล้ากันอยู่ที่ร้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุ จากนั้นได้เจอกลุ่มคู่อริเก่า ตะโกนด่า และท้าทาย พวกตนจึงได้เดินออกไปเคลียร์กัน เพราะไม่อยากมีเรื่อง และพยายามจะเดินออก แต่กลับถูกคู่อริ ที่มากันประมาณ 10 กว่าคน รุ่มทำร้ายด้วยการชกต่อย ก่อนที่จะมีคนใช้อาวุธมีดปลายแหลม แทงเพื่อนๆของตน จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
ทางด้าน นางสมพิศ เหมหงษ์ อายุ 63 ปี กล่าวว่า ย่าของนายฟลุ๊คผู้เสียชีวิตให้การว่าตนเองอยู่กับหลานชายที่ย่านดอนเมืองหลานชายมักจะออกไปเที่ยวกลางคืนบ่อยครั้งจนกระทั่งหลานชายมาเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนได้ประมาณ 2 เดือนเศษและในวันนี้ทางแฟนของหลานชายได้โทรมาบอกว่าหลานชายถูกแทงเสียชีวิตจึงได้เดินทางมาดูก็พบว่าเป็นหลานชายของตนจริงส่วนเรื่องสาเหตุนั้นตนเองไม่ทราบว่ามาจากเรื่องใด เพราะหลานชายเรียนอยู่เทคนิคย่านดอนเมือง
ล่าสุดได้ส่งร่างของผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรพลิกศพพร้อมกับแพทย์เวร ทางตำรวจ จึงได้บันทึกภาพในจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้เกี่ยวข้องชุดสืบสวนนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก และจะทำการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง พร้อมทั้งได้ประสานทางญาติญาติมารับศพนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ การจะเอาชนะด้วยอารมณ์เพราะสุดท้ายคนที่เสียใจที่สุดคือคนข้างหลัง