ทีมโฆษก ตร.สรุปสถานการณ์ม็อบ 17 ตุลา

ทีมโฆษก ตร. แถลงสรุปสถานการณ์ม็อบ 17 ตุลา ย้ำประชาชน อย่าส่งต่อข่าวปลอมสร้างความแตกแยก จำเป็นต้องปรับวิธีการควบคุมสถานการณ์ตามผู้ชุมนุม

เวลา 19.00 น. วันนี้(17 ต.ค. 63) ทีมโฆษก ตร. ได้มีการแถลงข่าวสถานการณ์ชุมนุมประจำวัน ม็อบ 17 ตุลา โดยเริ่มที่การดูแลระบบจราจรทั้งทางบกและระบบราง ว่า เรื่องการปิดการจราจร พบกลุ่มผู้ชุมนุมกระจายอยู่ 5 จุด จุดแรกที่ห้าแยกลาดพร้าว จุดที่สองสถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ จุดที่สามสถานีรถไฟฟ้าอุดมสุขและเคลื่อนไปที่แยกบางนา จุดที่สี่สามย่านมิตรทาวน์ และจุดที่ห้า ม.รามคำแหง ส่วนของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่ปิดให้บริการไปทุกสถานี และระบบรถไฟฟ้าใต้ดินก็มีการปิดเฉพาะสายสีน้ำเงินเท่านั้น นอกนั้นยังใช้การได้ตามปกติ ทั้งนี้อย่างไรก็ตามในการปิดการจราจร ปิดการใช้ระบบสาธารณะ เมื่อไหร่ที่คลายจากปัญหาของกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อไหร่ที่หมดความจำเป็นในการที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนหรือเคลียร์เส้นทางได้ จะเปิดให้พี่น้องประชาชนได้ใช้โดยเร็วที่สุด

ทีมโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าจะพยายามดำเนินการให้กระทบกับชีวิตประจำวันพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุด ฝากย้ำเตือน การเข้าไปในผิวการจราจร การรวมกันชุมนุมการเมือง เป็นความผิดตามพระราชการกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรง ฝากเตือนพี่น้องประชาชน ลูกๆหลาน การกระทำเช่นว่านั้นเป็นความผิด ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย ที่ผ่านมามีข่าวเฟคนิวส์ในสังคมออนไลน์อยู่มาก นอกจากจะเป็นความผิดตามพระราชกำหนดแล้ว ยังเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งตรงนี้จะเป็นการทำให้สังคมเกิดความสับสนวุ่นวาย เกิดความแตกแยก และอาจจะสร้างให้มีความร้ายแรงเพิ่มขึ้น

ภาพจากอีจัน
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษก บก.ปอท. หนึ่งในทีมโฆษก ตร. กล่าวถึงการส่งต่อข้อมูลที่บิดเบือนว่า ข่าวปลอมหรือเฟคนิวส์ยังคงมีและมีอยู่ตลอด โดยมีกลุ่มผู้กระทำ ยกตัวอย่างเช่น การเผยแพร่ภาพเยาวชนถูกพันธนาการโดยเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้เนื้อหากับภาพเป็นข่าวปลอม จากการตรวจพิสูจน์ทราบว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฮ่องกง เมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว เป็นการจับกุมผู้ร่วมชุมนุม ในส่วนของประเทศไทย ยืนยันเลยว่าไม่มีภาพดังกล่าว ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะเจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมายทำตามหลักสิทธิมนุษยชน แล้วก็เป็นตามหลักสากล คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก ขอความวิงวอนอย่าส่งต่อข้อมูลปลอมเหล่านี้ เพราะมีความผิดแน่นอน ผิดอย่างแรกคือฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นการบิดเบือนสถานการณ์ให้เกิดความกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท อีกอันหนึ่งจะผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 ในเรื่องการข้อมูลที่กระทบต่อความมั่นคง จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท เพราะฉะนั้นถ้าพี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลแบบนี้ในช่วงนี้ การรับข้อมูลข่าวสารขอความกรุณาให้ตรวจสอบจากสำนักข่าวหลัก ลองดูว่าข่าวพวกนี้หรือข้อมูลต่างๆ สำนักข่าวหลักมีการนำเสนอไหม เพราะว่าสำนักข่าวหลักการนำเสนอจะมีการกลั่นกรองก่อน ถ้าอันไหนไม่จริงก็อย่าส่งต่อ หรือถ้าส่งต่อไปแล้ว ตอนนี้ระบบของโซเชียลมีเดียมีการยกเลิกส่งข้อความก็คือลบทิ้งไป ก็จะช่วยไม่ให้ข่าวปลอมเหล่านี้ฟุ้งกระจายไปในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งจะทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความร้ายแรงในสังคมของเรา
ภาพจากอีจัน
สุดท้าย ทีมโฆษก ตร. ตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงการชุมนุมวันนี้ ที่มีการชุมนุมกระจายกัน ว่า ตอนนี้ผู้ชุมนุมมีการชุมนุมแบบกระจายหลายพื้นที่ และมีจำนวนมากตามปริมาณขึ้นอยู่กับพื้นที่ เราพยายามควบคุมให้อยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ โดยใช้สมดุลระหว่างกฎหมาย แล้วก็ความปลอดภัยของผู้ชุมนุม พร้อมกับการเจรจาไปด้วย หลายจุดแจ้งยุติการชุมนุม ก็ต้องขอขอบคุณ ตำรวจต้องทำหน้าที่ตามที่ผู้ชุมนุมดำเนินการไป ต้องรักษาตามสภาพ เน้นย้ำว่าเราจำเป็นต้องรักษากฎหมายเหมือนกัน และเราจำเป็นต้องรักษาความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบ และก็ใช้การเจรจานำ แล้วค่อยใช้การบังคับใช้กฎหมายตามมา ซึ่งขั้นตอนเรามีมาตรฐานทางสากลอยู่แล้ว ทางกลุ่มผู้ชุมนุมมีการปรับวิธีการ เราก็จำเป็นต้องปรับวิธีการตามไปด้วย ปรับปรุงวิธีการเพื่อให้สังคมสงบสุขโดยเร็ว
ภาพจากอีจัน