พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุม ว่า ด้านสถานการณ์สื่อสังคมออนไลน์ เรื่องแรก กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ตรวจสอบพบบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการยุยง ความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เบื้องต้นส่งเรื่องมาให้ กอร.ฉ.มาแล้ว 58 เรื่อง
เรื่องที่ 2 ลักษณะของการบิดเบือน ข่าวปลอม ปลุกระดมโดยผู้ไม่หวังดี โดยใช้ตัวตนผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ชักชวนให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้วิธีการ looting คือการปล้นระดมในระหว่างสถานการณ์ที่มีความไม่สงบ ในทวิตเตอร์มีการแชท อ้างการกระทำในลักษณะต่างๆ มีการชักชวนให้ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ทรัพย์สินทั่วไปของพี่น้องประชาชนในพื้นที่บริเวณที่มีการชุมนุม เพื่อเป็นการยกระดับการชุมนุม
ทาง กอร.ฉ. เป็นห่วง อยากแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม อย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี ที่พยายามยุยงปลุกปั่น นอกจากจะเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว ผู้ที่กระทำมีความผิดตามกฎหมายอาญา อาจจะเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือทำให้เสียทรัพย์ แล้วแต่กรณี
ในส่วนของผู้ที่ไม่หวังดี พยายามยุยง ปลุกปั่น ในโลกออนไลน์จะต้องถูกดำเนินคดีทั้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 อัตราโทษไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท
แต่ยังมีอีกหลายท่านที่มีความเป็นห่วง เป็นใย มีลักษณะเตือนกันอย่าตกเป็นเครื่องมือ ทาง กอร.ฉ. ต้องขอบคุณด้วยที่ มีสติในการช่วยเตือนกัน เป็นการป้องกันระวังภัย สำหรับบุคคลที่ 3 หรือบุคคลที่ไม่หวังดี ที่พยายามแทรกแซงเข้ามาด้วยเจตนาร้าย