วันนี้(23 ต.ค.63) เจ้าหน้าที่รัฐเเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุท่อเเก๊สระเบิด ที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เจ้าหน้าที่สภาวิศวกรเเห่งประเทศไทย ทีมผู้บริหาร เเละวิศวกร บริษัท ปตท.
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีเเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวหลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุท่อแก๊สระเบิดว่า จากการตรวจสอบ ยังไม่ทราบสาเหตุที่เเน่ชัด เพราะมีสาเหตุเป็นไปได้หลายประการ เรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการสอบสวนหาสาเหตุ เบื้องต้นได้พูดคุยกับผู้บริหาร ปตท. เเล้ว ทราบว่ามีการปรับปรุงตรวจสอบท่อเเละระบบอยู่สม่ำเสมอ ระบบทุกอย่างมีมาตรฐาน
ด้านสภาวิศวกรที่เข้ามาร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุท่อแก๊สระเบิด ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกรเเห่งประเทศไทย กล่าวว่า ท่อส่งก๊าซของ ปตท.ถือว่าได้มาตรฐานตามหลักสากล ซึ่งวางตามเเนวของสายไฟฟ้าเเรงสูง ตามภาพที่เห็นมีการระเบิดด้านบน เเสดงให้เห็นว่าในท่อมีเเรงดันสูงมากในการส่งก๊าซไปยังที่ต่างๆ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ เเต่จากภาพที่ปรากฏเปลวไฟขนาดใหญ่ลุกโชนอยู่บนอากาศ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติมีน้ำหนักเบาและจะลอยตัว ได้พุ่งขึ้นไปกระทบกับสายไฟฟ้าเเรงสูงที่มีความร้อน ทำให้กิดประกายไฟลุก โดยปกติการวางท่อนี้จะต้องเป็นเขตพื้นที่ปลอดภัย ไม่มีที่อยู่อาศัยหรือการขุดเจาะ ซึ่งทาง ปตท.ก็ได้วางตามแนวของสายไฟฟ้าแรงสูงอยู่แล้ว ส่วนบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ก็อยู่ห่างในระยะต้องห้ามบนผิวพื้นดินแล้วคือ 40-60 เมตร ซึ่งในพื้นที่ที่มีการวางท่อส่งก๊าซจะต้องห้ามเด็ดขาด คือมีสิ่งปลูกสร้างไว้ด้านบน หรือการกดทับที่มีความเคลื่อนไหว เเต่กรณีนี้ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น ปตท.ต้องหาคำตอบให้ได้ 3 ข้อ คือ
1.อายุการใช้งานของท่อเเละความชำรุดของอุปกรณ์ มีหรือไม่อย่างไร
2.สิ่งที่ไปกระทบทำให้ท่อเกิดการฉีกขาดจนเป็นรอยรั่ว มาจากสาเหตุใด
3.กระทรวงพลังงานเเละผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องออกมาเปิดเผยว่าลักษะท่อเเบบนี้ ในประเทศไทยมีการวางอยู่จุดใดบ้าง มีการบำรุงรักษาอย่างไร เเละมีการป้องกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยกระทบกับชีวิตประชาชนเเบบนี้อีก