พบทุจริต สั่งฟันวินัย! หน่วยงาน ตร. อมเบี้ยเลี้ยง โควิด-19

จเรตำรวจ เอาจริง! สอบปม หน่วยงาน ตร. อมเบี้ยเลี้ยง โควิด-19 ลั่น จนท.การเงินโดนก่อน หากพบทุจริต สั่งฟันวินัย

กรณีการร้องเรียนว่าหน่วยงานในสังกัด ตร. มีการเบิกจ่าย เบี้ยงเลี้ยง โควิด-19 แล้วตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ได้รับเงินไม่เป็นไปตามจำนวนที่เบิก หรือไม่ได้รับเงินตามที่มีการเบิกจ่ายจริง รวมถึงมีการโอนเงินเข้าบัญชี แล้วให้ตำรวจที่ได้รับเงินเบิกเงิน แล้วนำไปคืน จนเป็นที่วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่าเป็นการกระทำผิดวินัย รวมถึงทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่

ซึ่งเรื่องนี้ (26 ต.ค. 63) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. เผยว่า ได้เรียก รอง ผบช.น. และตำรวจภูธรภาค 1-9 ที่ทำหน้าที่จเรตำรวจ มาเพื่อรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผลการตรวจสอบเบื้องต้นครั้งนี้ ได้รับรายงานจากชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกองตำรวจจเร ทั้ง 10 กองตรวจ พบว่า มีหลายหน่วยน่าจะเข้าข่ายมีมูลกระทำผิดจริง

มีพฤติการณ์สำคัญคือ ไม่โอนเงิน เบี้ยเลี้ยง โควิด-19 เข้าบัญชีเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับสิทธิ์เบิกโดยตรง หรือ โอนเข้าบัญชีผู้มีสิทธิ์เบิกโดยตรง แต่ให้ถอนเงินคืนมาเพื่อนำมาเฉลี่ยกัน ในลักษณะเป็นการทอนเงิน เป็นต้น

พล.ต.อ.วิสนุ ระบุด้วยว่า กรณีดังกล่าว ได้รายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้นให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ทราบแล้ว และได้รับคำสั่งให้ดำเนินการโดยเด็ดขาด

ภาพจากอีจัน
ดังนั้น ในการเรียกประชุมครั้งนี้ จตช. จึงได้สั่งการให้ จเรตำรวจทุกกองบัญชาการ ไปดำเนินการทางวินัย ในอำนาจหน้าที่ของแต่ละ บช. และให้ไปตรวจสอบหน่วยที่ได้รับจัดสรรงบประมาณดังกล่าวให้ครบทุกหน่วย แล้วรายงานผลให้ จตช. ทราบทุก 15 วัน เมื่อถามว่า จากการตรวจมีหน่วยใดมีมูลกระทำความผิดบ้าง พล.ต.อ.วิสนุ เผยว่า จากการตวจสอบเบื้องต้น พบหน่วยที่น่าจะมีมูลกระทำผิดหลายแห่ง เช่น ภ.จว.เลย, ภ.จว.สระบุรี, ภ.จว.นนทบุรี เป็นต้น และพบหน่วยที่กระทำผิดจริง โดยได้ดำเนิการทางวินัยต่อเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ได้แก่ สภ.ทุ่งสง ภ.จว.นครศรีธรรมราช, สภ.ทุ่งมน ภ.จว.สุรินทร์ และ สภ.ป่าพะยอม ภ.จว.พัทลุง ส่วน สภ.ป่าตอง ภ.จว.ภูเก็ต ได้มีการลงโทษทางวินัยต่อเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดไปแล้ว สำหรับงบประมาณเบี้ยเลี้ยงดังกล่าวพบว่า มีการตั้งงบเบิกจ่ายจำนวน 2,521 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการทุ่มเทเสียสละในภารกิจดังกล่าว เพิ่งหักเงินงบประมาณดังกล่าวไม่ถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานถือเป็นความเสียหายอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ระเบียบ ก.ตร. ได้กำหนดเบี้ยเลี้ยงให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ชั่วโมงละ 60-70 บาทต่อวัน วันละไม่เกิน 7 ชั่วโมง ตามหลักต้องโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของเจ้าหน้าที่โดยตรง หากโอนไปบัญชีอื่นถือว่ามีความผิด เพราะมีเส้นทางการเงินที่ชัดเจน จะมอบอำนาจให้คนอื่นโอนไม่ได้ จากการตรวจสอบ พบว่า ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่การเงินที่กระทำเป็นรายบุคคล ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าเป็นการจงใจหรือเกิดจากข้อผิดพลาด ส่วนขั้นตอนการสืบสวนข้อเท็จจริง ระเบียบ ก.ตร. กำหนดเวลาทำงานใน 60 วันหรือเร็วกว่านั้น หากไม่ทันก็ขยายเวลาให้ผู้ถูกกล่าวหา หาเหตุผลมาหักล้าง และตั้งกรรมการตรวจสอบว่าผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งโทษสูงสุดคือสั่งปลดออกจากราชการ และคดีอาญาก็ต้องยื่นเรื่องไปที่ ป.ป.ช พล.ต.อ.วิสนุ ย้ำว่า ถ้าตำรวจด้วยกันยังไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วจะไปให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนได้อย่างไร หากตำรวจคนใดไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือไม่ได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงตามสิทธิ์ สามารถแจ้งข้อมูลหรือร้องเรียนมาได้ที่ 1599 หรือ เว็บไซต์ jaray.co.th หรือส่งหนังสือมาที่ ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ บก.อก.จต. เลขที่ 701/701 ถ.รามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. โทร. 02-509-9375