บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ไลฟ์สดยืนหยัดปกป้อง สถาบันพระมหากษัตริย์

ร้องไห้กลางไลฟ์สด! บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ลาออกจาก มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมประกาศขอสู้เพื่อ สถาบันพระมหากษัตริย์ รับไม่ได้คนจาบจ้วง

จากกรณีที่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ออกโรงเตือน ม็อบราษฎร โดยมีช่วงหนึ่งที่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ระบุว่า ถ้าหากจะเรียกร้อง ประชาธิปไตย์ ก็ควรอยู่ในกรอบ ไม่ควรจาบจ้างล่วงเกิน สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งตนเองทนไม่ได้ ถ้าเห็นต่อหน้า ใครมายกนิ้วต่อหน้าขบวนเสด็จ จะเข้าไปตบ ให้รู้ว่าไม่ควรทำอย่างนี้

ล่าสุด (26 ต.ค. 63) บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ไลฟ์สดผ่านเพจส่วนตัว โดยคลิปมีความยาวประมาณ 13 นาที ซึ่งในคลิป บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ระบุว่า

“อยากคุยเรื่องประเด็นที่หาว่าคนอย่างผมจะไปตบเด็กชู 3 นิ้ว ผมไม่มีความคิดแบบนั้นหรอกครับ ที่ผมบอกว่าถ้าผมเจอต่อหน้า ใครที่ยก คนที่ยกนิ้วกลางให้ขบวนเสด็จ ผมจะตบจริงๆ ถ้าเป็นรถพ่อคุณ แม่คุณขับมา มีคนยกนิ้วกลางให้คุณจะทำยังไง ผมเห็นภาพแล้วมันโมโหมาก ส่วนเด็กที่ชูสามนิ้วนั้นเป็นเรื่องของเขา เขามาเรียกร้องประชาธิปไตย มาเรียกร้องอนาคตของเขา นั่นเรื่องของเขา ผมไม่เคยไปชุมนุมกับม็อบตั้งแต่เสื้อแดง เสื้อเหลือง ผมไม่เคยไปยุ่ง ไม่เคยขึ้นเวที ผมมีเวทีเดียว คือ เวทีพระมหากษัตริย์ อย่าเอามาโยงกัน

ภาพจากอีจัน

คนที่ฉีกพระบรมฉายาลักษณ์ คนที่เอารูปในหลวงมาเขียนคำหยาบคาย พูดจาดูหมิ่นหยาบคายอันนั้นที่ผมจะทำ ไม่เกี่ยวกับเด็กชู 3 นิ้ว เด็กชู 3 นิ้วนั้นผมสนับสนุนเลยครับ ถ้าทำแล้วเกิดอนาคตที่ดีกับประเทศชาติ และส่วนรวม ยินดี ผมยินดี

ทุกวันนี้เราต้องรับรู้ว่า สิ่งหนึ่งที่คนไทยมารวมกันเป็นปึกแผ่นได้ ไม่ใช่เป็นเพราะสถาบันพระมหากษัตริย์เหรอครับ คุณมีชาติ มีศาสนา คุณต้องมีพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่เอาพระมหากษัตริย์แล้วจะมาเป็นประธานาธิบดี เพ้อเจ้อ

ตอนนี้ทางมูลนิธิร่วมกตัญญู โทรมามากมาย อย่าให้ผมเข้าไปยุ่ง ผมบอกตรงๆ ผมรัก ผมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าไม่ให้ผมไปยุ่งไม่ให้ผมไปขัดขวางสิ่งที่ทำลายพระมหากษัตริย์ ผมอยากต่อสู้

ภาพจากอีจัน



ผมทำงานกับร่วมกตัญญูมา 34 ปี ผมต้องขอโทษทางมูลนิธิ เพื่อความสบายใจผมขอลาออกตั้งแต่บัดนี้เป็นตนไป จะต้องมากังวล ว่าถ้าพูดเรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วมีคนมาต่อว่ามูลนิธิ ทุกวันนี้มันถึงที่สุดแล้ว มันหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในเรื่องของสถาบันฯ ต่อไปนี้ผมขอลาออก ผมจะต่อสู้ด้วยตัวของผมเอง เคสทุกเคสที่รอการช่วยเหลืออยู่ผมก็จะช่วย แต่ไปในนามของ นาย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์


แล้ววันนี้ พวกคุณจะไปสถานทูตเยอรมัน เพื่ออะไร ตอนนี้ผมพูดในฐานะนายบิณฑ์ วันนี้มันอัดอั้นมาก ถ้ายังเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับบ้านเมือง ผมเชื่อหลายๆ คนก็ไม่มีความสุข ถึงเวลาแล้วครับที่จะต้องให้ชัดเจน อย่าให้มันฮึกเหิม ไม่ใช่ใครออกมารักสถาบันก็ด่าเขา ไปตามราวีเขา ผมเชื่อว่า เด็ก 80% ไม่รู้เรื่องนี้ หลังจากนี้จะสู้เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเต็มที่ ถึงแม้ชีวิตนี้ผมจะต้องเป็นอะไรผมจะภูมิใจมาก”