สิ้นสุดโครงการสังคมอีจันช่วยช้างตกงาน จ.สุรินทร์ ชาวช้างน้ำตาคลอ ยกมือขอบคุณด้วยหัวใจ

4 เดือนของการช่วยเหลือ เเละซับทุกข์ ชาวช้างสิ้นสุดลงเเล้ว

การช่วยเหลืออาหารช้างของสังคมอีจันเดินทางมาถึงเดือนสุดท้ายเเล้ว เวลาช่างเดินไวเหลือเกิน

หลายคนคงได้เห็นภาพเเละความทุกข์ ที่อีจันได้เล่าจากความรู้สึกส่งต่อไปไปถึงความรู้สึก

ต้นเดือน มิ.ย.2563 พี่จันเจ้าของเพจอีจันมีโอกาสเดินทางมาที่วัดป่าอาเจียง เเละได้พบกับควาญช้าง วันนั้นควาญช้างพรั่งพรูความทุกข์ให้กับพี่จันฟัง โควิด-19 ทำชีวิตทั้งควาญทั้งช้างเเทบหมดทุกอย่าง เงินเเละงานที่เคยมีกลายเป็นศูนย์

กลางเดือน มิ.ย.2563 พี่จันตัดสินใจเล่าทุกข์นี้ผ่านเพจอีจัน เราจะทำอย่างไรให้พวกเขารอด เเละเเน่นอนว่า เพียงไม่กี่วันสังคมอีจันร่วมส่งความช่วยเหลือมาอย่างล้นหลาม จนทำให้เรามีทุน 1 ก้อน เพื่อที่จะซับทุกข์ช้างตกงานได้ในระยะหนึ่ง ทุกอย่างพร้อม เรารีบลงพื้นที่มาที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เเละพบว่ามีช้างตกงานมาจากปางทั่วประเทศกว่า 105 เชือก เราใช้ใจใช้ความกล้าพุ่งตรงเข้าหาปัญหาเเละร่วมกันกับควาญเเก้ไขทีละจุด จะทำอย่างไร ให้ช้างอิ่มได้นานที่สุด ไม่ใช่เเค่ตอนเราอยู่ ยอมรับตอนนั้นทีมอีจันไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับช้างเเละการดูเเลช้าง หรือเเม้กระทั่งช้างต้องกินอะไรถึงจะอิ่มนานที่สุด เเต่ทุกอย่างเราเรียนรู้ได้เเละเริ่มจับจุดถูก มือใจเเต่ใจสู้

จนเราได้ข้อตกลงเป็นมติเอกฉันท์ เราจะรับผิดชอบ ค่าอาหารช้าง 105 เชือก ที่ถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ตามระยะทางเเละความสะดวกในการเดินทางมารับอาหาร โดยเราจะรับผิดชอบเป็นระยะเวลา 4 เดือน คือ กค.- ต.ค.2563 จะสั่งอาหารมาให้กลุ่มละ 2 ครั้ง ต่อ 1 สัปดาห์ ครั้งละ 8 ตัน รวม 1 เดือน ทุกกลุ่มจะได้รับอาหารช้าง 32 ตัน 4 กลุ่ม 4 เดือน ทุกกลุ่มจะได้ รวมกว่า 512 ตัน

ทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดี ควาญช้างหาซื้ออาหาร รายงานอีจันทราบ อีจันจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะความร่วมมือของควาญช้างทุกคน จนมาถึงวันนี้ เวลาล่วงเลยมาถึงโค้งสุดท้าย 4 เดือนที่ผ่านมา ด้วยหน้าที่เเละภาระทีมงานนักข่าว ที่มีหลากหมายหน้างาน อาจดูเเละเเละจัดงานได้ไม่เต็มที่สักเท่าไหร่ เเต่ทีมงานตั้งใจทุกครั้ง ใจจริงอีจันอยากช่วยให้ถึงที่สุดเท่าที่เราจะช่วยได้ เเต่เรื่องเงินเเละงบสนับสนุนที่ได้มา เราไม่ได้ใช้งบประมาณส่วนตัวเเต่เป็นของสังคมอีจันที่ช่วยกันจนทำให้ 4 เดือนนี้ ช้าง 105 เชือก ยืดเวลาอิ่มได้ มาถึงวันนี้ สุดแขนของสังคมอีจันเเล้ว เราภาวนาทุกวันให้สถานการณ์บ้างเมืองดีขึ้น ให้ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ ชาวช้างเเละช้างจะได้จะได้มีงานทำ เเต่เหมือนเเค่คำภาวนามันไม่เป็นผล เราจำใจต้องปิดโครงการ เเละพร้อมผลักดันสนับสนุนหากมีหน่วยงานเข้ามาช่วยต่อ

27 ต.ค.2563 ทีมอีจันเดินทางมาหาช้างเเละควาญช้างอีกครั้ง เพื่อถามสาระทุกข์สุกดิบก่อนที่จะปิดโครงการอย่างเป็นทางการ ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถาม ประโยคเเรกที่จันได้ยิน "ขอบคุณสังคมอีจันมากๆ เลยครับ 4 เดือนที่ผ่านมา พวกผมดีใจเเละสุขใจจริงๆ ตอนนั้นมันทุกข์มากจริงๆ ไม่มีใครเห็นพวกเราเลย เเต่สังคมอีจันเห็น ถ้าไม่มีอาหารจากสังคมอีจัน พวกผมคิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าจะทำยังไง ตั้งเเต่วันนั้นที่อีจันยื่นมือเข้ามาช่วย ทุกข์มันหายไปจริงๆ เหมือนอีจันเเหวกบุญเลยครับ พอหมดความช่วยเหลือจากอีจันน้ำก็เริ่มมี ฝนก็เริ่มตก ทำให้ควาญเริ่มหาอาหารให้ช้างได้ ผมไม่รู้จะหาคำไหนว่าขอบคุณ ตอนนี้หัวใจชาวช้างยกให้อีจันหมดเลย ผมจะจำไว้ในวันที่ผมทุกข์ที่สุด สังคมอีจันอยู่ข้างๆผมเสมอ"

ประโยคเหล่านี้ถูกส่งมาพร้อมกับสายตาที่มีน้ำตาเอ่ออยู่สองข้าง ความรู้สึกตอนนั้นมันย้ำในหัวใจจันว่า นี่สินะ สิ่งตอบเเทนที่มีค่าที่สุดของการช่วยเหลือ

สุดท้ายเเล้ว ทีมงานอีจันช่วยช้างตกงาน อยากขอบคุณสังคมอีจันทุกคน ขอบคุณทุกคนด้วยหัวใจ ขอบคุณที่ทำให้ให้ช้างเเละชาวช้างยิ้มออก ขอบคุณที่ทำให้ทีมอีจันได้เจอกับความรักของชาวช้างที่มีต่อช้างเเละทีมงานเรา 4 เดือนทีมงานรู้สึกผูกพันธ์เเละมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปช่วยเหลือชาวช้าง

จนกว่าจะพบกันใหม่ ชาวช้างสุรินทร์สู้ๆ