ประมวลเหตุการณ์ รถบรรทุกน้ำมันชนรถพ่วง จ.บุรีรัมย์

เหตุการณ์ ทะเลเพลิง  ที่ จ.บุรีรัมย์ รถบรรทุกน้ำมันชนรถพ่วง เกินขึ้นเมื่อ เวลาประมาณ 00.30 น. ของวันที่ 29 ต.ค. 2563 โดย รถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง วิ่งมาจากทาง จ.นครราชสีมา บนถนนสาย 24 โชคชัย – เดชอุดม มุ่งหน้าไปทาง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แต่พอมาถึงใกล้สี่แยกกลางอำเภอหนองกี่ ได้เกิดเสียหลักพุ่งชนรถพ่วง 18 ล้อ แล้วเกิดระเบิดดังสนั่น ก่อนจะมีเปลวไฟลุกท่วมรถทั้งสองคัน

น้ำมันรั่วไหลไปตามพื้นถนน และท่อระบายน้ำ ทำให้ไฟลุกลามไหม้อาคาร บ้านเรือน ร้านค้าของประชาชนที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 คูหา

นอกจากนี้ ไฟยังไหม้รถยนต์ รถจักรยายนต์ใกล้จุดเกิด เหตุเสียหายกว่า 20 คัน

หลังจากนั้น ก็มีเสียงดังคล้ายระเบิดเป็นระยะๆ ประชาชนในละแวกใกล้เคียง ต้องพากันวิ่งหนี
เดชะบุญ ของคนขับรถน้ำมัน และรถสิบล้อ ที่สามารถกระโดดหนีออกจากรถได้อย่างหวุดหวิดก่อนที่ไฟจะลุกไหม้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน และต้องใช้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาล อบต. หน่วยกู้ภัยฯ หลายแห่งทั้งใน อ.หนองกี่ และ อ.ใกล้เคียง กว่า 50 คันสกัดเพลิงนานกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจะควบคุมเพลิงไว้ได้

ซึ่งระหว่างที่รอการเคลื่อนย้าย ซากรถบรรทุกน้ำมัน และรถพ่วง 18 ล้อออกจากจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังต้องฉีดน้ำกันไว้ ด้วยเกรงว่าจะมีเปลวไฟขึ้นมาอีก

จากนั้น เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 29 ต.ค. 2563 เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานได้เคลื่อนย้ายซากรถบรรทุกน้ำมัน และรถพ่วงออกจากถนน พร้อมกับเทโฟม และฉีดน้ำชะล้างเพื่อไม่ให้มีคราบน้ำมันหลงเหลือ ความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่า มีบ้านเรือน ร้านค้า ถูกไฟลุกลามไหม้เสียหายรวมจำนวน 19 คูหา ในจำนวนนี้เสียหายทั้งหลัง 2 คูหา เสียหายบางส่วน 17 คูหา รถเก๋งถูกไฟไหม้ 3 คัน รถตุ๊กๆ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน และมีรถจักรยานยนต์ที่บรรทุกมาในรถพ่วงอีกมากกว่า 20 คัน ซึ่งทางบริษัทรถน้ำมันก็รับปากจะรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด

ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่านาทีระทึก!! นางยุพิน จันทร์น้อย แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว เผยว่า ตอนเกิดเหตุตนเองกำลังขายก๋วยเตี๋ยวตามปกติ จู่ๆ ได้ยินเสียงรถชนกันอย่างแรงที่สี่แยก ตอนแรกก็คิดว่าแค่รถชนกันปกติเพราะไม่รู้ว่ารถที่ชนเป็นรถน้ำมัน กระทั่งได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดแล้วก็มีเปลวไฟลุกไหม้ จากนั้นไม่กี่นาทีก็เกิดไฟลุกเป็นทางยาวเพราะน้ำมันรั่วมาตามพื้นถนน และท่อระบายน้ำ ตนเองกับสามีและชาวบ้านจึงต้องพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก แต่ก็โชคดีที่ไม่ใครเสียชีวิต

นางจรีรัตน์ ศรีโสพิทสวัสดิ์ เจ้าของร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนและครอบครัวนอนอยู่บนบ้าน เห็นเพลิงลุกไหม้ที่บริเวณหน้าร้าน และลุกไหม้รถยนต์ 2 คัน และรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าร้าน ทั้งยังลามไหม้ฝ่าเพดาน ผ้าไหมหน้าร้านเสียหาย

ส่วนมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เดิมทียังไม่ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุที่ชนเพราะคนขับหลับใน หรือรถขัดข้อง แต่จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนขับรถยอมรับว่า หลับใน จึงพุ่งชนท้ายรถพ่วง

เหตุการณ์ทะเลเพลิง เมืองบุรีรัมย์ นับว่ายังโชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ไม่เช่นนั้น เหตุการณ์นี้ จะเป็นโศกนาฏกรรม ที่ยากลืมเลือน