แพทย์ แนะ โคราช ล็อกดาวน์เนอร์สเซอร์รี่ เลี่ยง ไวรัส RSV

โคราช เด็กป่วยล้นโรงพยาบาล ! หลัง ไวรัส RSV ระบาดหนัก ! แพทย์ แนะ ล็อกดาวน์เนอร์สเซอร์รี่ และโรงเรียน

วันนี้ (4 พ.ย.63) อาจารย์ นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้โพสต์ภาพและข้อความ แนะนำให้ล็อกดาวน์เนอร์สเซอร์รี่ หรือ โรงเรียนที่มีเด็กป่วยจากไวรัส RSV หลายราย
หลังจากวานนี้ (3 พ.ย.63) ข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 พบว่า มีเด็กเล็กใน จ.ขอนแก่น ป่วยติดเชื้อ ไวรัส RSV แล้วกว่า 400 ราย

อ่านข่าว : แพทย์ สธ. ขอนแก่น เผย เด็กติดเชื้อ ไวรัส RSV พุ่ง หลายร้อยคน


โดย นพ.จิรรุจน์ ได้ระบุข้อความว่า

ครูบางโรงเรียน ไลน์บอกผู้ปกครอง ให้พาเด็กไปโรงเรียน เพราะจะปิดเทอมแล้ว จะมีประเมินเด็ก
ทั้งๆ ที่ควรล็อกดาวน์เนอร์สเซอร์รี่ หรือ โรงเรียน ที่มีเด็กป่วยหลายคนได้แล้ว
เพราะ สถานการณ์ ณ ขณะนี้ จำนวนเด็กที่ป่วย ไวรัส RSV ล้นหอผู้ป่วยแล้ว ซึ่งมีตั้งแต่อายุไม่กี่วัน เพราะ ติดจากแม่ที่เป็นหวัด ไปจนถึงเด็กโตที่ไปโรงเรียนได้แล้ว
ซึ่งความเข้าใจเรื่อง ไวรัส RSV ในผู้ใหญ่และเด็กโตๆ อาจมีเพียงอาการหวัด น้ำมูกไหล จึงทำให้หลายคนคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร แท้จริงแล้ว นั่นคือสาเหตุหลักของการแพร่ ไวรัส RSV อย่างรวดเร็ว
ในช่วงนี้ ควรล้างมือ สวมหน้ากากโดยเฉพาะคนที่ป่วย และแยกเด็กป่วยอยู่บ้านใครบ้านมันไปก่อน

ภาพจากอีจัน
นอกจากนี้ นพ.จิรรุจน์ ชมเชย ยังได้ทำคลิปวิดีโอ เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ ไวรัส RSV ว่าเกิดจากอะไร ควรดูแล และมีวิธีการป้องกันอย่างไรอีกด้วย ซึ่งเนื้อหาจากคลิปวิดีโอ มีใจความว่า ไวรัส RSV เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดอาการในระบบหายใจ ซึ่งหากเป็นเด็กโตหรือผู้ใหญ่ ก็อาจจะมีอาการเพียงแค่ ไอ น้ำมูกไหล เจ็บคอ เพียงเล็กน้อย แต่ในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี ก็มักจะมีอาการที่รุนแรง เนื่องจากเชื้อตัวนี้สามารถทำให้เกิดการอักเสบของปอด และหลอดลมฝอย ซึ่งอาจทำให้มีอาการรุนแรงถึงขั้นหายใจล้มเหลวได้ การรับเชื้อ ไวรัส RSV ตัวนี้ มาจากวิธีการสัมผัสโดยตรง เช่น การสัมผัสกับของเล่นที่ปนเปื้อนเชื้อ หรือการหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อ ไวรัส RSV เข้าไปในระบบทางเดินหายใจ หรือการหอม การจับ การจูบ เด็กเล็ก โดยผู้ป่วยที่มีเชื้อ ไวรัส RSV อยู่ ส่วนอาการของการติดเชื้อ ไวรัส RSV โดยทั่วไป อาการหลักๆ คือ อาการน้ำมูกไหล ไอ และมีอาการไข้ ถ้าเป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 1-2 ปี มักจะมีอาการไข้สูง หลังจากนั้นจะมีอาการไอ น้ำมูก ตามมา ส่วนในรายที่มีอาการรุนแรงก็จะมีอาการหายใจหอบเหนื่อย ไอมากขึ้น บางครั้ง หากมีภาวะขาดออกซิเจนด้วย ก็จะเห็นว่ามีริมฝีปากที่เป็นสีเขียว นั้นเป็นสัญญาณบอกว่าเด็กมีอาการที่รุนแรง ต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ส่วนวิธีการรักษาอาการป่วยจาก ไวรัส RSV ขณะนี้ RSV ยังไม่มียาต้านไวรัสจำเพาะเจาะจง และยังไม่มีวัคซีนที่จะช่วยป้องกันไวรัสตัวนี้ได้ ส่วนการแพร่ ก็เหมือนกับ โควิด-19 การรักษานั้นเป็นเพียงการรักษาประคับประคองตามอาการเท่านั้น เช่น ถ้ามีภาวะออกซิเจนต่ำก็ให้ออกซิเจน ถ้ามีภาวะขาดสารน้ำก็ให้น้ำเกลือ เพื่อรอให้ร่างกายทำลาย ไวรัส RSV และร่างกายฟื้นขึ้นมาเอง สำหรับในรายที่มีอาการรุนแรง เช่น ระบบหายใจล้มเหลว อาจจำเป็นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและอยู่ในห้อง ICU และใช้เวลาในการรักษานานหลายวันกว่าจะหาย วิธีป้องกัน ไวรัส RSV จะเน้นเรื่องการล้างมือบ่อยๆ จะช่วยลดการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสที่มือที่สามารถส่งไปสู่เด็กได้ ส่วนเด็กโตและผู้ใหญ่ที่ป่วย ควรสวมหน้ากาก หลีกเลี่ยงการหอม การจับ การจูบ เพราะอาจนำเชื้อไปสู่เด็กได้ และอย่างสุดท้าย ควรแยกเด็กและผู้ใหญ่ที่ป่วย อย่าให้มาใกล้ชิดกับเด็กที่ไม่ป่วย
ภาพจากอีจัน