4 ใน 11 ผู้นำชุมชนเชียงคาน ฉี่ม่วง ผลตรวจยืนยัน มีการเสพยา จริง !

ให้ออกจากราชการ ! หลัง ผลตรวจยืนยันออก 4 ใน 11 ผู้นำชุมชนเชียงคานฉี่ม่วง มีการเสพยาเสพติด จริง

เหตุการณ์นี้ เรียกได้ว่า ช็อกไปทั้ง อ.เชียงคาน เลยทีเดียว

เมื่อวันที่ 3 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ทาง อ.เชียงคาน จ.เลย ได้มีการจัดประชุมประจำเดือน กำนัน ผู้ใหญ่ พร้อมกับสารวัตรกํานัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และข้าราชการประจำอำเภอ โดยนายภูริวัจน์ โชตินรัตน์ นายอำเภอเชียงคาน ได้ให้ผู้เข้าประชุมทั้งหมดเข้าแถวตรวจหาสารเสพติดโดยไม่บอกล่วงหน้า โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารพราน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้ามาช่วยปฏิบัติการในครั้งนี้ จนผลตรวจออกมา เจอผู้ที่มีปัสสาวะมีสีม่วงถึง 11 คน ! ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

ล่าสุด วันนี้ (5 พ.ย.63) อีจัน ได้ติดต่อไปยัง นายภูริวัจน์ โชตินรัตน์ นายอำเภอเชียงคาน เพิ่มสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น

นายภูริวัจน์ นายอำเภอเชียงคาน เผยกับอีจันว่า การตรวจปัสสาวะในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในโครงการอำเภอสีขาว ถือเป็นเรื่องประจำ และเป็นนโยบายของรัฐ ที่ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนประเด็นที่ 2 คือ อ.เชียงคาน อยู่ใกล้แนวชายแดน ซึ่งมีลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ และนำเข้าส่วนกลางเป็นประจำ จนมีการสืบทราบว่า ผู้นำหมู่บ้านมีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด ทางอำเภอจึงอยากพิสูจน์ทราบว่า เรื่องนี้มันจริงหรือไม่ ? ก็เลยตรวจปัสสาวะ

ซึ่งจากจำนวนผู้เข้าประชุมทั้งหมด 305 ราย ใน 8 ตำบล 82 หมู่บ้านในเขตอำเภอเชียงคาน พบสารเสพติดในปัสสาวะ 11 ราย (มีปัสสาวะเป็นสีม่วง) ตรวจไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะจำนวน 283 ราย และไม่มาประชุม 11 ราย

ซึ่งทั้ง 11 ราย มีทั้งผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หลังจากนั้น จึงได้มีการส่งผลตรวจของทั้ง 11 ราย ไปตรวจยืนยันอีกครั้งกับทางโรงพยาบาล

จนวานนี้ (4 พ.ย.63) ผลตรวจออกแล้ว ยืนยันว่า มี 4 ราย ที่มีสารเสพติดในร่างกาย โดย 2 ใน 4 มีตำแหน่งเป็นถึงผู้ใหญ่บ้าน และอีก 2 เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

นอกจากนี้ ทั้ง 4 ราย ยังรับสารภาพว่า มีการเสพยาเสพติดจริง ส่วนอีก 7 ราย ไม่สามารถรับรองผลได้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเรียกเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป

ส่วนทั้ง 4 ราย ที่มีผลยืนยันว่าเสพยาเสพติด ก็จะมีการดำเนินการตามมาตรการ ให้ออกจากราชการโดยเร็วที่สุด เพราะขาดคุณสมบัติในการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ส่วนเรื่องของการดำเนินคดีนั้น เบื้องต้น นายภูริวัจน์ เผยว่า ตอนนี้ในทางกฎหมาย ถือว่าเป็นผู้ป่วย ต่อมาก็ต้องดูว่าติดมานานหรือไม่ และต้องส่งเข้าศูนย์บำบัดฟื้นฟู และจะมีการหารือถึงแนวทางการจัดการกับทางจังหวัด พร้อมทั้งส่งเรื่องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลต่อไป