เด็ก 3 ขวบ เจ็บหนักปางตาย นอน ICU ไม่ได้สติ หลังถูก พี่เลี้ยง ทำร้ายอย่างรุนแรง

แม่ร้อง ปวีณา ลูกสาว 2 คน ถูกพี่เลี้ยง ที่ไว้ใจ ทำร้าย คนโตมีรอยช้ำตามตัว ส่วนคนเล็ก เจ็บหนักปางตาย ต้องนอน ICU หมอบอกต้องทำใจ !

หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่แทบสลาย หลังรู้ว่าลูกสาว 2 คน ถูกพี่เลี้ยงที่ไว้ใจทำร้าย อย่างรุนแรง
วันนี้ (13 พ.ย.63) อีจันเดินทางไปยัง สภ.คลองหลวง หลังทราบเรื่องราวสุดสะเทือนใจนี้ โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา มูลนิธีปวีณาฯ ได้พาพ่อแม่ของน้องเอ วัย 4 ขวบ และน้องบี วัย 3 ขวบ มาติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ภาพจากอีจัน
ย้อนกลับไปเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว น.ส.กิม (นามสมมติ) คุณแม่วัย 24 ปี เล่าให้อีจันฟังว่า หลังจากที่ยายที่เลี้ยงน้องทั้ง 2 คนเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ เธอได้พาลูกสาว 2 คน น้องเอ วัย 4 ขวบ และน้องบี วัย 3 ขวบ ไปฝากไว้กับ " แม่ปู " นางดวงนภา พันธุ์สะ พี่เลี้ยงเด็กวัย 43 ปี ที่เธอไว้ใจ เพราะ " แม่ปู " เป็นแม่ของเพื่อนเธอ เธอให้เงินค่าตอบแทนในการเลี้ยงดูเด็กทั้ง 2 คน แก่แม่ปู เดือนละ 6,000 บาท โดยที่น้องเอและน้องบี อาศัยอยู่ที่บ้านแม่ปูตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเธอเลิกรากับสามี และต้องทำงานเลี้ยงลูก ทำให้ไม่สามารถที่จะดูแลเด็กทั้ง 2 คนได้ ซึ่งในทุกๆ วันหยุดจากการทำงาน เธอจะไปเยี่ยมลูก และรับลูกกลับมาดูแลเอง
ภาพจากอีจัน
จากการสอบถาม น.ส.กิม เธอเล่าว่า ที่บ้านของแม่ปู มีการเลี้ยงเด็กทั้งหมด 4 คน โดย 2 ใน 4 คือ ลูกสาวของตนเอง ส่วนอีก 2 คน คือ ลูกชายวัย 13 ปี และหลานคนเล็กวัย 1 ขวบ ของแม่ปู และตลอดเวลาที่ฝากดูแลลูกๆ แม่ปู ไม่เคยมีพฤติกรรมทำร้ายเด็กๆ เลย แต่ในช่วงที่ผ่านมา ก็สังเกตเห็นว่าลูกๆ มีรอยจ้ำเขียวตามตัวบ้าง เมื่อถาม แม่ปูก็จะตอบว่า เด็กๆ ลื่นล้มเอง เมื่อถามลูก ลูกก็ตอบตรงกับที่แม่ปูเล่า เธอจึงไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งวันที่ 9 พ.ย.63 เวลาประมาณ 19.00 น. แม่ปู โทรมาหาเธอ ว่าลูกสาวคนเล็ก น้องบี วัย 3 ขวบ ไม่สบายหนัก หลังจากลื่นล้มในห้องน้ำและตกบันได แต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก น.ส.กิม เผยว่า ในคืนนั้น เธอไม่ได้เดินทางไปหาลูก เพราะติดทำงานและเลิกดึก แต่ในเช้าวันที่ 10 พ.ย. เธอรีบเดินทางไปหาลูก ก่อนพบว่า น้องบี มีร่องรอยเขียวช้ำตามใบหน้า ตาบวมทั้ง 2 ข้าง แขนขาช้ำ นอนนิ่งไม่รู้สึกตัว ส่วนน้องเอ ก็มีร่องรอยเขียวช้ำตามตัวเช่นกัน เธอจึงรีบนำลูกสาวคนเล็กส่ง รพ.แห่งหนึ่งย่านคลองหลวงทันที ก่อนแพทย์ตรวจพบว่า น้องบี มีอาการเลือดออกในสมองเยอะ ต้องเร่งทำการผ่าตัดสมอง สะโพกหัก อาการโคม่า ไม่รู้สึกตัว โดยแพทย์บอกให้ทั้งพ่อและแม่ ทำใจ
ภาพจากอีจัน
กว่า 3 วัน ที่น้องบี อาการโคม่า นอนรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU น.ส.กิม สอบถามลูกสาวคนโต น้องเอ จนทราบความจริงทั้งหมด น้องเอ เล่าให้ผู้เป็นแม่ฟังว่า " แม่ปู " คือ คนที่ทำร้ายน้องและตนเอง โดยน้องเอ สามารถเล่าได้ว่า แม่ปู กระทำพฤติกรรมทำร้ายร่างกายอย่างไรบ้าง น.ส.กิม ยังได้เปิดใจกับอีจันอีกว่า ตอนแรกที่รับรู้ว่า แม่ปู คือคนทำลูกตัวให้อยู่ในสภาพแบบนี้ ตนช็อกมาก ไม่คิดว่าคนที่ไว้ใจจะทำกันได้ขนาดนี้ วันที่ 12 พ.ย.63 น.ส.กิม จึงได้เข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ และขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวทั้ง 2 คน
ภาพจากอีจัน
โดยช่วงเช้าของวันนี้ (13 พ.ย.63) คุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ประสาน พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คลองหลวง และได้พาพ่อและแม่ของน้องเอและน้องบี เข้าแจ้งความ และพาน้องเอ เข้าสอบปากคำกับทีมสหวิชาชีพทันที
ภาพจากอีจัน
ด้าน พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คลองหลวง เผยกับอีจันว่า เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัว แม่ปู มาจากบ้านเอื้ออาทรหลังที่เกิดเหตุ เพื่อมาให้ปากคำที่ สภ.คลองหลวง ซึ่งแม่ปู ปฏิเสธไม่ให้การในชั้นสอบสวน และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น และจากการสอบปากคำน้องเอ ที่ระบุการกระทำของแม่ปูได้ทั้งหมด ทำให้น่าเชื่อว่า แม่ปู คือ คนที่ทำร้ายเด็กทั้ง 2 คนจริง และจากการรวบรวมพยานหลักฐานจากเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทำการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับแม่ปู 2 ข้อหา ได้แก่ ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ก่อนนำตัวฝากขังที่ศาลธัญบุรี เป็นเวลา 12 วัน และค้านการประกันตัว ซึ่งหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
ภาพจากอีจัน
นอกจากนี้ คุณปวีณา ยังเผยว่า หลังจากที่ น้องเอ รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลเรื่องนี้ น้องเอ ก็มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น โดยหลังจากนี้ คุณพ่อและปู่ของ น้องเอ จะรับน้องเอ ไปดูแลต่อไป