พญาเสือ บุกค้นคาวัด พระ ขังชีวิตสัตว์ป่าคุ้มครอง

คนมีชีวิตเป็นของตัวเอง สัตว์ก็มีชีวิตมีสิทธิ์ที่จะเป็นอิสระ ไม่ใช่ถูกจองจำอยู่ในกรง
ล่าสุดเจ้าหน้าที่หน่วยฯ พญาเสือ พร้อมตำรวจ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่สายตรวจฯ สัตว์ป่า สบอ.4 สุราษฎร์ธานี ร่วมกันจับกุม พระประเสริฐ หรือ นายประเสริฐ เหตุ มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในการครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต

การตรวจค้นและจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ว่าพระรูปนี้ มีการลักลอบครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง ในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ใน ตำบลบ้านนา อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์ดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ ฯ เดินทางไปถึง มีพระประเสริฐ หรือนายประเสริฐ อายุ 55 ปี ชาวจังหวัดชุมพร เดินทางออกมาพบ และพาเดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ จากการตรวจสอบพบสัตว์ป่าคุ้มครองที่ถูกขังอยู่ในกรง ดังนี้​ นกเงือกกรามช้าง จำนวน 3 ตัว​ นกเงือกหัวแรด จำนวน 2 ตัว​ เหยี่ยวผึ้ง จำนวน 1 ตัว​ นกเขาเขียว จำนวน 3 ตัว​ นกแขกเต้า จำนวน 2 ตัว​ นกแก้วโม่ง จำนวน 1 ตัว​ ไก่ฟ้าหลังขาว จำนวน 2 ตัว งูเหลือม จำนวน 4 ตัว​ ค้างคาวแม่ไก่ จำนวน 7 ตัว​ รวมสัตว์ป่าคุ้มครองทั้งสิ้น 9 ชนิด จำนวนรวม 25 ตัว

พระประเสริฐฯ ได้ให้ถ้อยคำกับพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯ ว่า สัตว์ป่าคุ้มครองทั้งหมดเป็นของตน โดยมีญาติโยมเป็นผู้นำมาถวายให้วัด ตนก็เป็นผู้รับไว้ และสร้างกรงกักขังไว้เพื่อเลี้ยงดู แต่ตนทราบว่าการเลี้ยงสัตว์ป่าเป็นความผิดตามกฎหมาย และตนไม่มีเอกสารการแจ้งครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วว่า พระประเสริฐ กระทำความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562​ ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามมาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ​ จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมยึดสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางทั้งหมด นำไปเก็บรักษาไว้ ณ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่อไป