เปิดมหากาพย์ โฉนดที่ดิน vs ส.ค.1 ชาวบ้านถูก ไล่ที่ ไม่เป็นธรรม?

ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ร้องขอความเป็นธรรม ถูก ไล่ที่ ทั้งที่เป็นเจ้าของ โฉนดที่ดิน

มหากาพย์ โฉนดที่ดิน vs ส.ค.1 เลขที่ 8 กลายเป็นเรื่องราวชวนฉงน ของชาวบ้าน ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ หมู่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี

ทำไม โฉนดที่ดิน กับ สิทธิครอบครองที่ดิน หรือ ส.ค.1 เลขที่ 8 ถึงกลายเป็นเรื่องอลเวง ?

เรื่องราวเริ่มจาก ชาวบ้าน 37 ครอบครัว ถูกฟ้อง ไล่ที่ดิน ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ หมู่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ประมาณ 19 ไร่ ทั้งที่ทั้ง 37 ครอบครัว ได้อาศัยและทำกินในพื้นที่ของตนเองด้วยความสุจริตมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ แต่กลับถูกขับไล่ออกจากที่ดินของตนเอง เนื่องจาก นายตำรวจยศ พล.ต.ท. ได้ฟ้องร้องเกี่ยวกับการครอบครองที่ดิน และมีการชนะคดี ส่งผลให้ชาวบ้านจะต้องออกจากที่ดินอาศัยอยู่

ชาวบ้านเห็นพ้องต้องกันว่า พวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะซื้อที่ดินมาโดยชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงไม่รู้ว่าที่ดินที่ตนเองซื้อมาเป็นที่ดินที่มีปัญหา มีการฟ้องร้องมาตั้งแต่ ปี 2533

มาถึงตรงนี้ อ่านไม่ผิด!! ที่ดินที่เป็นข้อพิพาท เกิดปัญหาการฟ้องร้องมาตั้งแต่ ปี 2533 หรือเมื่อ 30 ปี มาแล้ว

แล้วที่ดินที่กำลังเป็นข้อพิพาทอยู่ขณะนี้ มีที่มาที่ไป อย่างไร… มาย้อนรอยไปพร้อมๆ กัน

พ.ศ.2470 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกาศที่ดินตรงนี้เป็นป่าสงวน ป่าชายเลน
พ.ศ.2498 นาย อ. (นามสมมติ) ได้สิทธิ์ครอบครองที่ดิน
พ.ศ.2509 ครอบครัวของโจทก์ซื้อที่ดินจาก นาย อ. (นามสมมติ)
พ.ศ.2513 อบจ.ชลบุรี ผุดโครงการเมืองใหม่ และได้มีการตั้งคณะกรรมการในการตรวจสอบสิทธิ์ในที่ดิน โดยมี 19 ราย ที่ได้รับความเดือดร้อน และเยียวยาคนในพื้นที่ จัดสรรที่ดินภายใน 1 ไร่ โดย 1 ในนั้นเป็นนายเล็ก สีพลอย แต่กลับไม่มีชื่อของ นาย อ. (นามสมมติ)
พ.ศ.2514 มีพระราชกฤษฎีกาเวรคืนที่ดินให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์
พ.ศ.2516 มีคำสั่งศาลชลบุรี 107/2516 จำหน่าย ส.ค.1 เลขที่ 8 ออก
พ.ศ.2533 โจทก์ฟ้องศาลชั้นต้น ว่า ที่ดินเป็นของโจทก์ และโจทก์ได้ฟ้องกรมที่ดิน กับ อบจ.ชลบุรี
พ.ศ.2552 ศาลฎีกา พิพากษาตัดสินว่า นายตำรวจยศ พล.ต.ท. เป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว
พ.ศ.2562 เจ้าหน้าที่ที่ดินมีการรางวัดและออก ส.ค.1 ให้โจทก์
พ.ศ.2562 นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ยกเลิกคำสั่งศาลชลบุรี ในปี พ.ศ.2516
พ.ศ.2563 โจทก์ฟ้องกรมที่ดินให้เพิกถอนโฉนดของชาวบ้าน 

จากปากของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนที่ดินแปลงเจ้าปัญหา
นายณัฐภาค ลีลาฐาปนกุล บอกว่า พอที่บ้านตนได้รับหมายศาล ก็มานั่งอ่านรายละเอียดว่า ทำไมถึงถูกฟ้องขับไล่ ซึ่งพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทนั้น โจทก์อ้างว่าเป็นพื้นที่ 19 ไร่ แต่เมื่อมาอ่านข้อมูลเก่าๆ พบว่า พ.ศ.2471 ที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่หวงห้ามที่ทางราชการออกเอกสารมาว่า เป็นป่าฟืน

จากนั้นเมื่อ พ.ศ.2498 นาย อ. (นามสมมติ) อ้างว่าตนเองมีเอกสาร ส.ค.1 ซึ่งได้ขายต่อให้กับโจทก์ ในปี พ.ศ.2509

แต่ในปี พ.ศ.2513 เกิดโครงการเมืองใหม่ชลบุรี ในพื้นที่ 3,000 ไร่ ดังนั้น เมื่อ ปี พ.ศ.2514 จึงมีพระราชกฤษฎีกา ให้เพิกถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ เพื่อให้ประชาชน ได้เข้ามาใช้ประโยชน์ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น ส.ค.1 เลขที่ 8 ที่ นาย อ. ครอบครองจึงเป็นโมฆะ

และต่อมา ในปี พ.ศ.2516 ได้มีคำสั่งจังหวัดชลบุรี ระบุให้จำหน่าย ส.ค.1 เลขที่ 8 ออก เนื่องจากมิชอบทางกฎหมาย ซึ่งหลังจากปี พ.ศ.2516 ชาวบ้านก็เริ่มมีการเข้ามาในพื้นที่ โดยมี อบจ.ชลบุรี เป็นผู้จัดสรรที่ดินให้ จากนั้นประชาชนก็ใช้ประโยชน์จากที่ดินเรื่อยมา

ชาวบ้านที่เข้ามาในที่ดินแปลงนี้ ต่างก็มีโฉนดที่ดินเป็นของตัวเอง และได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยชาวบ้านไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ในปี พ.ศ.2533 โจทก์มีการฟ้องศาลชั้นต้น ว่า ที่ดินแปลงดังกล่าว โจทก์ซื้อมาจาก นาย อ. กระทั่งปี พ.ศ.2552 ศาลฎีกาตัดสิน ว่าโจทก์มีสิทธิ์ในที่ดิน ส.ค.1 หมายเลข 8 จริง

นอกจากนี้ ตนได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในปี พ.ศ.2562 ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งจังหวัดเก่า ที่ระบุว่า จำหน่าย ส.ค.1 เลขที่ 8 ออก ทำให้ ส.ค.1 หมายเลข 8 กลับมามีผลอีกครั้งหนึ่ง

ก่อนที่ต่อมา ในปี 2563 โจทก์ก็ได้ฟ้องกรมที่ดินเป็น จำเลย 1 ให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน 40 ฉบับออก

นายณัฐภาค กล่าวด้วยว่า ชาวบ้านมีโฉนด แต่กำลังจะถูกเพิกถอน เมื่อตนตรวจสอบเทียบพื้นที่ในอดีตกับปัจจุบัน พบว่า ส.ค.1 เลขที่ 8 ระบุไว้ ทิศเหนือ จรดทางเดิน ทิศตะวันออก ติดนาเกลือ ทิศใต้ติดคลอง

แต่เมื่อตรวจสอบแผนที่ทหาร พบว่า ทิศตะวันออก ไม่มีนาเกลือ เป็นป่า ส่วนทิศเหนือ ติดทางเดิน ซึ่งก็มีทางเดินคร่อมอยู่ จริง เรื่องนี้ ตนเลยมองว่าสามารถออก ส.ค.1 คร่อมทางเดินได้เหรอ ส่วนภาคใต้ จรดคลอง แต่ในสารบบ หลังบ้านตนเป็นคลองบางหัก ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นคนละคลองกับในเอกสาร ที่ระบุว่าชื่อคลองตาบ๊วย แต่คลองตาบ๊วยนั้นก็อาจจะตื้นจนหายไปก็ได้ แต่สิ่งที่เราพิสูจน์ได้คือ พื้นที่หลังบ้านตน ซึ่งตนไปดูว่าเจ้าของเดิมใคร ก็ทราบว่าผู้ครอบครองคือ นายสุพาสน์ ซึ่งครอบครอง ส.ค.1 เลขที่ 16

เป็นที่น่าแปลกใจ ที่รอบด้านของพื้นที่ ไม่มีชื่อ นาย อ. เลย เมื่อพื้นที่รอบด้านไม่มีชื่อของ นาย อ. แล้วที่ที่เป็นข้อพิพาทจะเป็นของ นาย อ. ได้อย่างไร

เมื่อเรื่องมาไกลถึงขาดนี้ หน่วยงานของรัฐ ก็ไม่ได้ออกมาช่วยเหลือหรือเยียวยาชาวบ้านที่กำลังจะถูกไล่ที่ ถ้าหากสู้จนถึงที่สุด และเลวร้ายที่สุดก็คงต้องทำตามคำสั่งศาล

“เราก็ไม่ได้วางแผนว่าที่ที่พ่อแม่ บรรพบุรุษเราซื้อมา อยู่มานาน วันหนึ่งจะถูกขับไล่” นายณัฐภาค กล่าว

ขณะที่ สามี ภรรยา คู่หนึ่ง ที่ได้รับหมายศาลเช่นเดียวกันกับชาวบ้านคนอื่นๆ ก็เผยว่า ที่แปลงนี้ขนาด 200 ตารางวา ตนประมูลมาจาก กรมบังคับคดี เมื่อปี พ.ศ.2545 ในราคา 1 ล้าน 5 แสนบาท และตอนนี้ตนก็ปล่อยให้ร้านค้าเช่าทำมาหากิน ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา และไม่เคยทราบว่าที่ดินตรงนี้มีปัญหา จนกระทั่งหมายศาลมาถึงบ้าน ตนก็ตกใจเพราะตนได้ที่ดินมาอย่างถูกกฎหมาย และในอนาคต ที่ดินตรงนี้ตนมองว่า หากปลูกบ้านก็เป็นทำเลที่ดี เพราะมีสวนสาธารณะอยู่หน้าบ้าน

ส่วน คุณป้า ชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ หมู่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้บอกกับอีจัน ทั้งน้ำตาว่า พอได้รับหมายศาล ก็ตกใจ ไม่รู้จะทำยังไง ถ้าหากเราไม่มีที่พักพิงแล้วก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ที่ของเราเราอยู่ถูกต้องตามกฎหมาย เรามีโฉนด แต่พอมาเจอแบบนี้ไปไม่ถูก ตนจึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือด้วย

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ศาลจังหวัดชลบุรี ได้นัดชี้สองสถาน และกำหนดแนวทางการดำเนินคดี สืบพยานโจทก์ เวลา 09.00 น.

จนถึงตอนนี้ ชาวบ้านไม่มีใครรู้เลยว่า จะได้ไปต่อในที่ดินที่พวกเขาคิดว่าตนเองมีสิทธิ์ หรือ จะต้องย้ายออก เรื่องราวมหากาพย์ที่ดิน และ ส.ค.1 เลขที่ 8 จะจบอย่างไร #อีจัน จะเกาะติดจนกว่าจะได้ข้อสรุป!!