หลังจาก โรงแรมดาราเทวี โรงแรมหรูระดับห้าดาวใน ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ปิดกิจการชั่วคราว ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 และจะเปิดกิจการให้อีกครั้งในเดือนตุลาคม 2563 แต่หลังจากนั้นก็ขยายเวลาปิดกิจการชั่วคราวออกไปอีกจนมีหนังสือเลิกจ้างพนักงานเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา
โดยระบุว่าประสบปัญหาด้านการเงิน จนไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ ทำให้ต้องหยุดประกอบกิจการโรงแรมชั่วคราว มาตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น บริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด จึงมีความจำเป็นที่จะลดจำนวนพนักงาน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.63 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่าทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องพนักงานให้ชดใช้ค่าเสียหาย จากกรณีที่ไปให้ข่าวกับสื่อมวลชนและมีการถือป้ายที่มีข้อความใส่ร้ายป้ายสีนายจ้างว่าโรงแรมดาราเทวีเป็นโรงแรมเถื่อน ไม่สามารถเปิดกิจการได้และได้ปิดกิจการแบบถาวรโดยไม่จ่ายเงินเดือน อันเป็นความเท็จ เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของนายจ้างและทำให้ทางบริษัทได้รับความเสียหาย ถือเป็นความผิดร้ายแรงตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน และ ความผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยนายจ้างมีสิทธิ์เลิกจ้างโดยไม่จำเป็นต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583
ล่าสุด วานนี้ (30 พ.ย.63) นายมังกร สรชัย หนึ่งในพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง ได้เปิดใจว่า ตนทำงานที่โรงแรมดาราเทวีมานานเกือบ 20 ปี ตั้งแต่ยุคบุกเบิกปี 2545 ยุคเฟื่องฟูที่ห้องพักสุดหรูคืนละ 470,000 บาท รู้สึกใจหายที่โรงแรมต้องปิดกิจการ เพราะผูกพันกันมานาน เสียใจที่ทางบริษัทไม่สามารถบริหารกิจการต่อไปได้อีก
นายมังกร บอกว่า ค่าจ้างที่ค้างจ่ายตั้งแต่ต้นปีจนนำไปสู่การฟ้องคดี ในตอนนี้พนักงานได้รับแล้ว เหลือเพียงค่าจ้างของเดือนกันยายนและตุลาคมที่ผ่านมา และล่าสุดกลุ่มพนักงานตกลงจะไม่เรียกร้องในส่วนที่ค้างอีก 2 เดือนนี้ แต่จะขอใช้สิทธิ์เรียกร้องเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน และส่งตัวแทนร้องเรียนไปที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือแล้ว
ส่วนที่หนังสือระบุว่า อาจมีการฟ้องดำเนินคดีกับกลุ่มพนักงานที่ไปร้องเรียนที่ศูนย์ราชการจังหวัด เรื่องนี้ไม่กังวล เพราะการเข้าร้องเรียนเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากมีการฟ้องร้องจริง ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
นายมังกร บอกอีกว่า ช่วงที่เริ่มประสบปัญหา หากทางบริษัทส่งตัวแทนมาพูดคุยร่วมหาทางออก ซึ่งพนักงานทุกคนก็ยินดีพบกันครึ่งทางเพราะเข้าใจสถานการณ์ดี แต่ที่ผ่านมาไม่มีตัวแทนของบริษัทเข้ามาพูดคุยชี้แจง มีเพียงทำหนังสือแจ้งมาเป็นครั้งคราวเท่านั้น นอกจากนี้ ยังพบว่าไม่มีการยื่นต่อใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม ที่หมดอายุไปตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.63 จากพฤติการณ์ดังกล่าว ทำให้เชื่อว่าทางโรงแรมไม่มีเจตนาจะเปิดกิจการต่อ