คำต่อคำ ! ปมดราม่า เสื้อสีชมพู จากปาก เสี่ยโป้ อานนท์

เปิดคำสัมภาษณ์ เสี่ยโป้ อานนท์ แบบคำต่อคำ แจงปมดราม่า เสื้อสีชมพู ยัน เป็นแค่ผู้บริจาค ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์

เปิดคำสัมภาษณ์ " เสี่ยโป้ " หลังจากที่มีกระแสดราม่า กับ " บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ปมเงินบริจาคซื้อเสื้อสีชมพู 2 ล้านบาท !

ประเด็นร้อนเริ่มจาก เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 63 ที่ผ่านมา นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือ รองต่อ พร้อมด้วย เสี่ยโป้ ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าว ข้อพิรุธกรณีการ บริจาคเงินซื้อเสื้อสีชมพู

วันถัดมา 14 ธ.ค. 63 นายสันธนะ ได้หอบเอกสารหลักฐาน เดินทางไปร้องเรียนกับตำรวจกองปราบให้ดำเนินคดีกับบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ใน 4 ข้อหา คือ ความผิดฐานพยายามฉ้อโกง , เรี่ยไรเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต , ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ ความผิดที่เกี่ยวกับการแอบอ้างสถาบัน

ภาพจากอีจัน


เกี่ยวกับเรื่องนี้ เสี่ยโป้ ได้ให้สัมภาษณ์กับอีจัน ว่า ตนเองไม่ได้ติดต่อกับพี่บิณฑ์มานานมาแล้ว ตั้งแต่ที่บริจาคเงินช่วยน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี จำนวน 1 ล้านบาท เมื่อกันยายน ปี 2562 ที่ผ่านมา

ส่วนในปี 2563 ตนกลับมาเจอพี่บิณฑ์อีกครั้งที่งานรับเสด็จ แต่ตนจำไม่ได้ว่าวันที่เท่าไหร่ พี่บิณฑ์ได้คุยกับตนถึงเรื่องที่ต้องการให้คนที่ไม่มีเงิน แต่ต้องการมารับเสด็จ ได้มา ตนจึงบอกให้พี่บิณฑ์ประกาศไปเลยว่า ถ้าใครที่ไม่มีค่ารถแล้วอยากมารับเสด็จ ให้มาเอาเงินจากตนได้เลย เพราะ ตนมีงบ 20 ล้านบาท เดี๋ยวตนจะจัดการเอง

แต่อีกวันหนึ่ง ก็คือ ถึงวันรับเสด็จแล้ว การจัดการเรื่องนี้ก็ไม่ทัน ทำให้เรื่องนี้ จบไป และตนก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่บิณฑ์อีก

พอผ่านไป ประมาณครึ่งเดือนหรือเดือนหนึ่ง พี่บิณฑ์ก็ติดต่อกลับมาหาตนอีกครั้ง โดยผ่านโทรศัพท์ลูกน้องของตน โดยบอกว่าต้องการนัดคุยให้ตนซื้อเสื้อสีชมพู 10 ล้านบาท ตนจึงตกลงคุยกันที่ ซีคอนบางแค


พอมาเจอกัน พี่บิณฑ์ก็บอกว่าเสื้อสีชมพูนี้เป็นของ โรงพยาบาลศิริราช คุยไปมา ตนจึงตกลงกันว่า จะซื้อเสื้อสีชมพู 10 ล้านบาท โดยวันนั้นเขาก็ให้เสื้อสีชมพูมา 3-4 ตัว ที่มีตราสัญลักษณ์ ที่พี่บิณฑ์บอกว่า เขาได้รับตราสัญลักษณ์ แต่เพียงผู้เดียว ให้ผลิตเสื้อศิริราช 300,000 ตัว ซึ่งตนก็ถามว่าทำไมถึงไม่ใส่เสื้อเหลือง อีกฝ่ายก็บอกเสื้อเหลืองเป็นสีของการเมือง เขาไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลัวว่าจะเกี่ยวข้องกับการเมือง เลยเอาเสื้อสีชมพูแทน คนจะได้จดจำ เป็นเสื้อของวันพ่อ ด้วยความที่มีอุดมการณ์เดียวกัน รักสถาบัน อยากให้คนมา อยากให้คนได้ใส่ ตนจึงตกลง โดยไม่เอะใจอะไร และด้วยความไว้ใจที่มีให้ เพราะ ชื่อเสียงของเขา

ภาพจากอีจัน


แต่หลังจากที่ตกลงบริจาคเงิน 10 ล้านแล้ว ตนไม่สามารถที่จะโอนเงินได้ เนื่องจากมีคดีพยายามฆ่าติดตัวอยู่ การเงินค่อนข้างลำบาก จึงแจ้งพี่บิณฑ์ว่า ไม่สามารถออกนอกประเทศไปเซ็นเอกสารทำธุรกรรมทางการเงินได้ ตนจึงบอกพี่บิณฑ์อีกครั้งว่า จะโอนเป็นเงิน 2 ล้านบาท 5 ครั้ง รวม 10 ล้านบาท

แต่วันก่อนโอนเงิน ก็มีปัญหาขัดข้อง ไม่สามารถโอนเงินได้ เสี่ยโป้จึงต้องโทรไปยืมเงิน "ซ้อ" ที่เสี่ยโป้เคารพ และช่วยเหลือกันมานาน

ด้าน "ซ้อ" ก็ถามว่าเอาเงินไปทำอะไร ตนบอกว่าเอาไปบริจาคซื้อเสื้อชมพูให้พี่บิณฑ์ ซ้อก็พูดว่ามีเงินแค่ 2 ล้าน แต่ปกติตนยืมกันมากกว่านี้ ก็ได้ แต่ครั้งนี้เขาบอกว่ามีแค่ 2 ล้าน ตนจึงโทรไปหาพี่บิณฑ์อีกครั้ง ว่าช่วยได้แค่ 2 ล้านเท่านั้น พี่บิณฑ์ก็โอเค จากนั้นได้นัดวันโอนเงินกัน แต่ยังไม่ได้เลขบัญชี เพราะ เมื่อถึงวันโอนเงิน จะโทรถามเลขบัญชีกันเอง

แต่วันก่อนโอนเงิน ตนไปเที่ยว ไม่อยู่ พี่บิณฑ์จึงโทรหาลูกน้องตนและบอกว่า ต้องโอนนะ เดี๋ยวจะเสียเครดิต ตนจึงให้ลูกน้องโทรหาซ้อ ให้รีบโอนเงินให้พี่บิณฑ์ แต่ซ้อกลับบอกให้ลูกน้องตนโทรหา นายสันธนะ หรือ รองต่อ ที่เป็นเพื่อนกับ ซ้อ

รองต่อ จึงบอกผ่านลูกน้องของตน ให้ตนโทรกลับไป เมื่อตนโทรหารองต่อ เขาก็ถามว่าได้ตรวจสอบหรือยัง เงิน 2 ล้าน ไปหาที่อื่นเถอะ เพราะเงินอยู่ที่รองต่อ พอคุยไปคุยมา รองต่อบอกเดี๋ยวจัดการเอง แล้วก็ขอเบอร์พี่บิณฑ์ ไปคุย หลังจากวันนั้นตนก็ไม่ได้พูดคุยกับทั้งพี่บิณฑ์และรองต่ออีก
จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น พี่บิณฑ์บอกให้ตนออกมาพูดความจริง ตอนนี้ตนก็มาพูดความจริงแล้ว


นอกจากนี้ เสี่ยโป้ ยังอ้างว่า รองต่อ มีคลิปเสียงที่คุยกับบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่บอกว่า ให้โอนเงินผ่านบัญชีส่วนตัว และจัดการเงินต่อเอง และนายสันธนะ ก็บอกกับตนเองว่า ถ้าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ ก็ให้ออกมาพูด แต่ถ้าไม่ออกมา จะดำเนินคดีกับตนด้วย ซึ่งตนก็กลัวเรื่องการแอบอ้างเรื่องตราสัญลักษณ์ ตนจึงไปให้ปากคำ เพราะตนไม่อยากเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตนเป็นแค่ผู้บริจาคเท่านั้น และเงินก็ยังไม่ได้ให้ ส่วนตัวก็ยังติดใจว่า ตนเป็นแค่ผู้บริจาค ทำไมถึงต้องให้ตนออกมาพูด เพราะตนพูดเสมอว่า ถ้าได้เงินจากตนไป อย่าบอกใครว่าเป็นเงินของตน ขออยู่เบื้องหลังดีกว่า
ส่วนทางกองปราบก็บอกว่า ถ้าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ ก็ต้องร้องเรียนพี่บิณฑ์ด้วย เพราะพี่บิณฑ์เป็นคนมาพูด โดยส่วนตัวแล้ว ตนไม่ได้ติดใจอะไรอยู่แล้ว

ภาพจากอีจัน


ส่วนประเด็นที่พี่บิณฑ์ออกมาไลฟ์สด เรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ส่วนตัวมองว่า มันมีจริง แต่สิ่งที่ตนพูดออกไปไม่มีคำโกหกแม้แต่คำเดียว ถ้าตนโกหก ก็ให้ออกมาโต้ได้เลย ตนมองว่า ถ้าไม่ผิดจริงๆ ก็ให้พี่บิณฑ์ออกมาชี้แจงกับรองต่อ ไม่ใช่มาพูดเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราต้องพูดกันด้วยหลักฐาน เพราะพี่บิณฑ์อ้างว่า ทำเสื้อสีชมพู 3 แสนตัว แต่เจ้าของโครงการเปิดเผยว่าทำมาเพียงแค่ 2 แสน 4 หมื่นตัวเท่านั้น

ส่วนตราสัญลักษณ์ เป็นของโรงพยาบาลศิริราช และศิริราชออกมาแถลงว่า พี่บิณฑ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องสายสะพายด้วย โดยเสี่ยโป้อ้างว่า พี่บิณฑ์บอกว่าถ้าบริจาคถึง 10 ล้าน ตนจะได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์

เสี่ยโป้ ยืนยันว่า ตนและพี่บิณฑ์ มีอุดมการณ์เหมือนกัน แต่ต่อจากนี้อาจจะเดินกันคนละทาง ทั้งนี้ยืนยันว่าตนไม่เคยมีความสัมพันธ์ใดๆ กับพี่บิณฑ์ นอกจากที่เคยบริจาคเงินเรื่องน้ำท่วมเท่านั้น

ส่วนเงิน 2 ล้านที่อยู่ที่รองต่อ ในเมื่อตนมีความตั้งใจแล้ว ก็คิดว่ารองต่อจะโอนให้ศิริราชต่อ ส่วนตนจะไปใช้เงินคืนซ้อ ต่อไป

ภาพจากอีจัน


โดยล่าสุด วันนี้ (16 ธ.ค.63) เสี่ยโป้ และ นายสันธนะ ได้นำเงินสด 2 ล้านบาท ไปบริจาคให้กับ ศิริราชมูลนิธิ ที่ รพ.ธนบุรี โดยมี นายแพทย์บุญ วนาสิน เป็นผู้รับมอบ