จับ ดาบตำรวจ ขอร่วมหลับนอน สาว – เรียกเงิน ครึ่งแสน แลกกับการไม่ดำเนินคดี?

สาวร้อง ถูก ดาบตำรวจ เรียกเงิน ครึ่งแสน – ขอร่วมหลับนอน แลก อิสรภาพ หลังพบ ยาบ้า 2 เม็ด



เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 น.ส.แนน (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมือง สมุทรปราการ โดยอ้างว่า ตนเองถูกตำรวจยศนายดาบ ซึ่งประจำอยู่ตู้ยามจุดสกัดแห่งหนึ่ง ภายในซอยวัดบางด้วน จับกุมในข้อหามียาบ้าไว้ในความครอบครองจำนวน 2 เม็ด และขอร่วมหลับนอนด้วยเพื่อแลกกับอิสรภาพ แต่ตนไม่ยอมจึงถูกเรียกเงินจำนวน 5 หมื่นบาท เพื่อแลกอิสรภาพแทน ซ้ำยังบังคับให้หาเพื่อนสาวมาร่วมหลับนอนแทนด้วย

ภาพจากอีจัน
น.ส.แนน ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะไปเยี่ยมลูกที่บ้านแม่ในย่านสำโรงใต้ ระหว่างที่ขี่รถจักรยานยนต์เข้าในซอยปลาป่น ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.สำโรงใต้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 2 นาย และอาสาอีก 2 นาย เรียกตรวจค้น ซึ่งในการตรวจค้นครั้งนั้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวก็พาตนไปตรวจค้นที่ในตู้ยามจุดสกัด โดยให้ตนถอดเสื้อชั้นในออกทำให้ยาบ้าจำนวน 2 เม็ดที่ตนซุกซ่อนไว้หล่นลงมา การเจรจาจึงเริ่มขึ้น ตำรวจยศนายดาบคนดังกล่าว ได้ขอร่วมหลับนอนกับตนเพื่อแลกอิสรภาพ แต่ตนไม่ยอม ตำรวจคนดังกล่าวจึงบอกให้ตนหาเงินมาให้แต่ไม่ได้บอกจำนวน ตนจึงโทรไปหาพี่ชายและแม่เพื่อขอเงินซึ่งก็มีเงินอยู่ประมาณ 5 พันบาท แต่นายตำรวจคนดังกล่าวไม่ยอมรับ กลับบอกตนว่าต้อง 5 หมื่นบาท ตนไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนจึงโทรไปหานายจ้างซึ่งตนช่วยขายเสื้อผ้าตามตลาดนัดอยู่ให้หาเงินจำนวนดังกล่าว
ภาพจากอีจัน


นายจ้างต้องเอารถกระบะไปจำนำกับเพื่อนและนำเงินจำนวน 25,000 บาทมาให้ดาบตำรวจคนดังกล่าวที่ตู้ยาม หลังจากที่เจรจากันจนตำรวจคนดังกล่าวยอมรับเงินจำนวนดังกล่าว โดยให้อาสาเป็นคนรับเงินที่บริเวณซอยข้างตู้ยามก่อนที่จะปล่อยตัวตนกลับไป

ต่อมา ดาบตำรวจคนดังกล่าว ได้นัดให้ตนมาพบที่ตู้ยามดังกล่าวอีก เพื่อให้ติดต่อเพื่อนสาวให้มาร่วมหลับนอนด้วย ระหว่างที่เจรจาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้นำกำลังเข้ามามาพอดีก่อนเชิญตัวดาบตำรวจคนดังกล่าวไปทำการสอบสวนที่โรงพัก

ภาพจากอีจัน


พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมือง สมุทรปราการ เผยว่า หลังรับเรื่องได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปเชิญตัวตำรวจนายดังกล่าวมาทำการสอบสวน และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และจะทำหนังสือรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามระดับชั้น ส่วนตำรวจนายดังกล่าว จะถูกพักหรือออกจากราชการหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาจะสั่งการ ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย