ฆ่ายัดถังซุกเมรุ คดีเริ่มคลี่ ตำรวจชุดสืบสวน พบหลักฐานเริ่มมัดตัว

ตำรวจชุดสืบสวน ภ.5 เร่งสืบปม ฆ่าหญิงสูงอายุยัดถัง ซุกเมรุ หลัง พบหลักฐานเริ่มมัดตัว คดีเริ่มคลี่

จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ ชาวบ้านสันบ่อเย็น พบศพถูก “ ฆ่ายัดถัง ซุกในเมรุเผาศพ” ของสุสานบ้านสันบ่อเย็น ต.ปางทุ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่

อ่านข่าวเพิ่มเติม : คนหายกลายเป็นศพ! ฆ่ายัดถัง หญิงสูงวัย ซุกเมรุ สุสานบ้านสันบ่อเย็น เชียงใหม่


ล่าสุดวันนี้ (25 ธ.ค. 63) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่กา ชุดสืบสวน บก.ภ.จว. เชียงใหม่ และชุดสืบสวน บก.สส.ภ.5 ร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดี หลั
งส่งศพชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตเพื่อนำผลมาประกอบสำนวนคดี


ภาพจากอีจัน
จากการสอบถามพยาน 1 คน เล่าว่า ช่วงเย็นของวันที่ 22 ธ.ค.2563 เวลาประมาณ 17.00 น. เห็นนางอาคร อยู่แถวบ้านพัก ซึ่งปกตินางอาคร พักอาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง เพราะสามีได้เลิกรากันไป ส่วนลูกสาวพักอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยวันนั้นพยานคิดว่านางคร ออกไปธุระหรือไปหาลูกสาว ขณะที่ช่วงค่ำของวันที่ 22 ธ.ค. 63 ญาติเริ่มกังวลว่า นางอาคร ไปไหนเนื่องจากโทรเข้าโทรศัพท์มือถือนางคร หลายหลังแต่ก็ไม่มีการรับสาย ญาติจึงตัดสินใจแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้าน ว่านางอาคร หายไปติดต่อไม่ได้ ต่อมา 23 ธ.ค. 63 ญาติและชาวบ้านเริ่มออกตามหาและติดต่อลูกสาวของนางอาคร แต่กลับได้รับคำตอบว่า "แม่ไม่ได้มาหา และติดต่อแม่ไม่ได้ไม่รับโทรศัพท์มือถือ" จากคำตอบของลูกสาว หลายคนที่ตามหาเริ่มกังวลใจ โดยผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านหมู่บ้านสันบ่อเย็น และชาวบ้าน ต.ปางทุ่ง ที่พอรู้จักมักคุ้นได้ช่วยกันตามหานางอาคร จนกระวานนี้ 24 ธ.ค. 63 สัปเหร่อในสุสานบ้านสันบ่อเย็น ซึ่งเป็นหนึ่งคนที่ช่วยตามหานางอาคร พบความผิดปกติที่เมรุเผาศพ เพราะปกติแล้วช่องเมรุต้องปิดไว้แต่พบว่าเปิดแง้มไว้จึงเปิดดู และพบถังน้ำสีน้ำเงินวางอยู่บนเชิงตะกอน ตนจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจสอบ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
หลังจากนั้นผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านต่างมาดูที่เมรุแล้วตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ เมื่อดึงเชิงตะกอนออกมาพบว่าภายในถังพบศพนางอาคร เมื่อนำร่างนางอาคร ออกมา ก็พบร่องรอยการถูกทำร้ายบริเวณใบหน้า อีกทั้งพบเงินสดประมาณ 200 บาท ของใช้ส่วนตัว และโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งยังแบตเตอรี่พร้อมเครื่องยังเปิดอยู่ อีกทั้งพบว่ามีสายเรียกเข้าแต่ไม่ได้รับสายกว่า 50 ครั้ง
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
จากข้อมูลดังกล่าว ชุดสืบสวนเริ่มหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องของนางอาคร รวมถึงวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของคนร้าย ซึ่งจากพยานหลักฐานโดยเบื้องต้นตำรวจ สันนิษฐานว่า นางอาคร ออกจากบ้านพักช่วงเย็นของวันที่ 22 ธ.ค. จากนั้นช่วงค่ำมีพยานแวดล้อมได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกันแล้วเงียบหายไป จึงเชื่อว่า “ คนร้าย ทำร้ายนางอาคร ก่อนนำร่างและทรัพย์สินนางอาครใส่ถังแล้วนำขึ้นรถเข็นสองล้อเข็นเข้าไปในสุสานก่อนนำถังที่ใส่ร่างนางอาครวางบนเชิงตะกอน ”
ภาพจากอีจัน
ข้อสันนิษฐานของชุดสืบสวนสอดคล้องกับหลักฐานที่หน้าเมรุบรอยล้อรถเข็น เศษเปลือกหอมแดงบริเวณช่องเมรุ และในเชิงตะกอน ทำให้สันนิษฐานว่าคนร้ายในคดีนี้ “น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน” เพราะน้ำหนักตัวของนางอาคร รวมถึงน้ำหนักของถังสีน้ำเงินค่อนข้างหนักหากใส่ร่างนางอาครเข้าไปทำให้น้ำหนักมากขึ้นแล้วยกวางบนเชิงตะกอนคงลำบาก
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
โดยขณะนี้ ชุดสืบสวนตั้งข้อสังเกต และสงสัยว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิดโดยพุ่งประเด็นปัญหามรดกที่ดิน และปัญหาของคนใกล้ชิดบางคนมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยถูกจับกุมหลายคดีต้องโทษในเรือนจำเพิ่งพ้นโทษ ตอนนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างสอบสวน. คาดว่าอีกไม่นานจะสามารถจับตัวคนร้ายได้