หมอธีระ ชี้วิกฤต โควิด ของไทยและทั่วโลก สาหัสไม่ต่างกัน

วิกฤตโควิดไทยและทั่วโลก สาหัสไม่ต่างกัน ! หมอธีระ ชี้ โควิด ระลอกใหม่ในไทย สาหัสกว่าเดิม ย้ำ ปชช. อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ

สถานการณ์โควิดในไทย ยังน่าห่วง หลังจากวันนี้ 28 ธ.ค. 2563 สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19ผู้ป่วยรายใหม่ 144 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 6,285 ราย หายป่วยแล้ว 4,180 ราย เสียชีวิตสะสม 60 ราย
ขณะเดียวกันยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น กระจายตัวกันอยู่หลายจังหวัด และที่สำคัญพบผู้มีประวัติเสี่ยงสูงจำนวนมาก

ล่าสุดวันนี้ 28 ธ.ค.2563 เฟซบุ๊ก รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในตอนนี้ว่า

ภาพจากอีจัน


สถานการณ์ทั่วโลก 28 ธันวาคม 2563
แอฟริกาใต้ทะลุล้านคนเป็นประเทศที่ 18 ของโลกไปแล้ว เนเธอร์แลนด์จะเป็นประเทศที่ 19 ภายในเดือนหน้าหากไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 418,268 คน รวมแล้วตอนนี้ 81,068,815 คน ตายเพิ่มอีก 6,642 คน ยอดตายรวม 1,770,618 คน
อเมริกา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 162,492 คน รวม 19,542,483 คน ตายเพิ่มอีกถึง 1,262 คน ยอดตายรวม 340,592 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 20,333 คน รวม 10,208,725 คน
บราซิล ติดเพิ่มถึง 18,479 คน รวม 7,484,285 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 28,284 คน รวม 3,050,248 คน ทั้งนี้ด้วยประชากรถึง 144.5 ล้านคน อัตราการติดเชื้อเช่นนี้น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีโอกาสแพร่ระบาดยาวนานต่อเนื่องแม้จะมีการนำวัคซีนมาทยอยฉีดไปในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็อาจยังเห็นผลได้ยากในด้านการควบคุมโรค มาตรการป้องกันส่วนบุคคลจำเป็นต้องเคร่งครัดมาก และการระงับการเดินทางและการพบปะกันถือว่าจำเป็นสำหรับสถานการณ์เช่นนี้
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 8,822 คน รวม 2,559,686 คน
อันดับ 6-10 เป็น ตุรกี สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักหมื่นต่อวัน
ฝั่งอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น
แถบสแกนดิเนเวีย รอบทะเลบอลติก และแถบยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
เมียนมาร์ และเกาหลีใต้ ติดเพิ่มหลายร้อยถึงเฉียดพัน ส่วนจีน ฮ่องกง นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่สิงคโปร์ เวียดนาม และกัมพูชา ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
…สถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 606 คน ตายเพิ่มอีก 22 คน ตอนนี้ยอดรวม 121,886 คน ตายไป 2,601 คน อัตราตายตอนนี้ 2.1%
ช่วงคริสตมาสต่อปีใหม่ ยอดการติดเชื้อใหม่ของทั่วโลกจะดูลดลงเพราะหลายประเทศไม่ได้รายงานเพราะเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดของเขา ทั้งนี้คาดว่าสถานการณ์ติดเชื้อจริงนั้นสูงกว่าตัวเลขที่มีพอสมควร
มองสถานการณ์โลก และสถานการณ์ไทยเรา คล้ายกัน
ระบาดซ้ำของไทยเราตอนนี้หนักหนาสาหัสครับ มาตรการที่ทำอยู่นั้นไม่เพียงพอที่จะยับยั้งการระบาดได้
การติดเชื้อไม่ได้มีเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงอย่างที่เห็นในระลอกแรกอีกต่อไป เพราะตอนนี้กระจายไปทั่ว ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนมีความเสี่ยงที่จะมีโอกาสรับและแพร่เชื้อได้โดยไม่รู้ตัว
ระบบการตรวจคัดกรองก็มีศักยภาพไม่เพียงพอที่จะรองรับความต้องการจำเป็นของประชาชน
ระบบการติดตามสอบสวนโรคนั้นแม้จะทำกันอย่างเต็มกำลังก็ไม่เพียงพอที่จะรองรับสถานการณ์ระบาดซ้ำที่เร็ว แรง กระจายไปทั่ว จำนวนมากเช่นนี้ได้ สอดคล้องกับหลายประเทศที่เคยออกมาแชร์บทเรียนให้โลกทราบว่าไม่สามารถรับมือได้จริงๆ เช่น สหราชอาณาจักร ฯลฯ ไม่ว่าจะเตรียมไว้กี่ทีม ก็ไม่มีทางเพียงพอ ด้วยสัจธรรมที่ว่า คนติดเชื้อหนึ่งคนนั้นจะมีประวัติการสัมผัสและพบปะผู้คนจำนวนมากถึงหลักร้อยหลักพัน พอมีการระบาดซ้ำ จะมีคนติดเชื้อจำนวนมากหลักร้อยหลักพันหรือมากกว่านั้นในเวลาเดียวกัน การสอบสวนโรคจึงไม่มีทางจะรองรับได้
นี่จึงเป็นสิ่งย้ำเตือนว่า "โรคระบาดรุนแรงเช่นนี้ ต้องมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคเป็นหลัก"
สิ่งที่ประชาชนจำเป็นต้องทำคือ การป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อหรือไม่ให้แพร่เชื้อแก่คนอื่นด้วยการใส่หน้ากาก 100%, การอยู่บ้าน…หยุดเชื้อ…เพื่อชาติ ครั้งที่สอง/ครั้งใหม่/ซ้ำอีกครั้ง, และการสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายให้รีบไปตรวจ
สิ่งที่รัฐและศบค.ต้องทำคือ เร่งตรวจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้, รายงานรายละเอียดข้อมูลไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในทุกพื้นที่ให้ประชาชนได้ทราบเพื่อประเมินความเสี่ยงของตนเองและไปรับการตรวจ, ยุติการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณว่าระบบสาธารณสุขจะเอาอยู่, ลดละเลี่ยงการโปรโมทการท่องเที่ยวในช่วงระบาดรุนแรงเช่นนี้ พร้อมกับเตือนคนเดินทางท่องเที่ยวให้ท่องเที่ยวอย่างระมัดระวัง (Travel with caution), ประกาศปิดกิจการเสี่ยงต่างๆ และกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มากทั่วประเทศ
นี่คือช่วงเวลาวิกฤติมาก เวลาทองในการคุมการระบาดมีแค่ถึงกลางมกราคม
จำเป็นต้องตัดสินใจช่วยกัน"จำศีล"
ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น พร้อมหน้ากาก 100%
ด้วยรักต่อทุกคน
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภาพจากอีจัน


ตอนนี้เราคาดเดาสถานการณ์ไม่ได้เลย ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คืออย่าประมาทการ์ดอย่าตกกันนะคะ เราจะผ่านไปด้วยกัน