ท่ามกลางยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อโรคไวรัสโควิด 19 รอบที่ 2 ยังไม่นิ่ง ที่พอจะให้หลายๆคนอุ่นใจขึ้นได้ และยังกังวลกันตลอดว่า อาการครั่นเนื้อครั่นตัว ไอ จาม มีน้ำมูก ตอนนี้ มันคืออาการการติดเชื้อโควิด19 หรือ เพียงเป็นแค่ไข้วัดธรรมดา เท่านั้นเอง
นพ.สมชัย ลีลาศิริวงศ์ แพทย์ผู้เชียวชาญด้านจิตวิทยา ที่ปรึกษาผู้จัดการความเสี่ยง โรงพยาบาลพระรามเก้า ได้อธิบายชัดเจนกันอีกครั้งว่า แม้อาการไข้หวัดทั่วไปกับผู้ป่วยไวรัสโควิด19 จะไม่แตกต่างกัน แต่ยังมีข้อสังเกตได้ ดังนี้
ในส่วนของอาการไข้หวัดธรรมดา จะมีอาการทั่วไปดังนี้
-มีไข้ 37.5 องศาขึ้นไป
-มีไข้ต่ำๆ ถึงมีไข้สูง
-อาจมีไอ จาม เล็กน้อย
-ไม่มีอาการท้องเสีย
-น้ำมูกไหล มีอาการคัดจมูก ทำให้หายใจไม่สะดวก
-ปวดตามตัว รู้สึกอ่อนเพลีย
และอาการเหล่านี้เป็นประมาณ 3-4 วันอาการจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ
ขณะที่อาการ โควิด – 19 จะมีอาการ ได้แก่ ไอแห้ง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยเนื้อตัว เจ็บคอ ท้องเสีย ตาแดง ปวดศีรษะ สูญเสียความสามารถในการดมกลิ่นและรับรส มีผื่นบนผิวหนัง หรือนิ้วมือนิ้วเท้าเปลี่ยนสี หายใจลำบากหรือหายใจถี่ เจ็บหน้าอกหรือแน่นหน้าอก โดยเฉลี่ยแล้วผู้ที่ติดเชื้อไวรัสจะแสดงอาการ 5-6 วัน หรืออาจใช้เวลานานถึง 14 วันจึงจะแสดงอาการ
นอกจากนี้ การป้องกันตัวให้พ้นการติดเชื้อ ที่ทำกันเป็นปกติ ทั้งการล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน หากมีความเสี่ยง ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด 19 หรือ เดินทางไปที่เสี่ยง ที่เคยมีผู้ติดเชื้อ และแหล่งแพร่ระบาด ให้สังเกตตัวเอง กักตัวเอง หากมีอาการดังกล่าวข้างต้น ให้เดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล เพื่อรับการรักษา
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขอแนะนำให้ประชาชนเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ โดยขอให้ยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” คือ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ด้วยความร้อน เลือกซื้อวัตถุดิบที่สด และล้างให้สะอาดก่อนนำมาปรุงประกอบอาหาร ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง ก่อนปรุงประกอบและรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำหรือสัมผัสสิ่งสกปรก ในส่วนอาหารที่ปรุงประกอบไว้นานแล้ว ขอให้สำรวจก่อน หากมีกลิ่น รส หรือรูปเปลี่ยนไป ไม่ควรรับประทานต่อ หากไม่เปลี่ยนแปลงควรอุ่นให้ร้อนทั่วถึงก่อนรับประทาน ซึ่งมาตรการ “สุก ร้อน สะอาด” นอกจากจะป้องกันโรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำแล้ว ยังเป็นการลดความกังวลเกี่ยวกับโรคโควิด 19 ด้วย