น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการเตรียมนำเข้าวัคซีนโควิดว่า มีความกังวลในการบริหารจัดการ วัคซีน ป้องกันโรคโควิด ที่อาจจะไม่ทั่วถึงกับ ประชาชน ทุกคนอย่างทันท่วงที โดยเบื้องต้นเห็นด้วยที่ กระทรวงสาธารณสุข จัดลำดับความสำคัญในการฉีดวัคซีนให้กับ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย ที่มีความเสี่ยงสูงก่อน แต่ประชาชนกลุ่มที่เหลือที่ไม่เข้าเกณฑ์ รัฐได้เตรียมวัคซีนเพียงพอหรือไม่ และเมื่อไหร่ประชาชนจะได้รับวัคซีนครบทุกคน เพราะกว่าที่วัคซีนจะออกฤทธิ์เห็นผลต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ทั้งนี้ยืนยันว่าการได้รับวัคซีนป้องกันโรคระบาดร้ายแรงถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองที่จะได้รับจากรัฐบาล คนไทยต้องได้รับวัคซีนทุกคน
โฆษกเพื่อไทย ชี้รัฐต้องจัดสรร วัคซีนโควิด ให้คนไทยทุกคน
โฆษกเพื่อไทย ชี้รัฐจัดสรร วัคซีนโควิด ให้คนไทยทุกคน เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองที่ควรได้รับ จี้เยียวยาคนหาเช้ากินค่ำ
ภาพจากอีจัน
สำหรับวัคซีนที่รัฐบาลสั่งมาจากบริษัท Sinovac จากจีน มีราคาถูกกว่าผู้ผลิตที่จำหน่ายราคาสูง แต่ราคาถูกนั้นได้มาตรฐานและมีผลต่อการป้องกันโรคได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากมีข่าวว่าทางการบราซิลได้สั่งหยุดทดสอบวัคซีน Sinovac จากจีนในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เพราะทำให้เกิดผลร้ายแรงตามมา แต่รัฐบาลไทยยังยืนยันที่จะสั่งซื้อเพราะถูกกดดันจากสังคมกรณีได้รับวัคซีนล่าช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านทั้งที่สั่งซื้อวัคซีนยี่ห้อเดียวกัน จนเปลี่ยนมาสั่งซื้อกับบริษัท Sinovac ของจีน สะท้อนว่า รัฐบาล นี้การขาดการวางแผนในการรับมือสถานการณ์โควิด อย่างรุนแรง ขณะที่ สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าบริษัทเจ้าสัวรายใหญ่ของไทยทุ่มเงิน 1.54 หมื่นล้านบาท เข้าถือหุ้น 15% ในบริษัท Sinovac Life Sciences หน่วยผลิต วัคซีนซิโนแวค เป็นการเตรียมการเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนใหญ่หรือไม่ นอกจากนี้รัฐบาลต้องเร่งเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการสั่งปิดธุรกิจ โดยร้านค้ารายย่อยและโรงงานหลายแห่งเลิกจ้างพนักงาน ปิดกิจการ การจ่ายเงินเยียวยาต้องทำให้รวดเร็ว โดยเฉพาะธุรกิจภาคการท่องเที่ยวที่ไม่มีโอกาสฟื้นตัวได้เลย ซึ่งเพื่อไทยเคยเสนอให้รัฐบาลก่อตั้งธนาคารเพื่อการท่องเที่ยว และพักชำระหนี้ ก่อนที่จะเกิดการระบาดระลอกใหม่ หากไม่รีบแก้ปัญหาโควิด รอบนี้ อาจจะฝังประชาชนให้ตายทั้งเป็น