โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดตัว อาหารจากกัญชา

เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ในสังคมโซเชี่ยล ได้มีการแชร์ภาพและข้อความ จากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ซึ่ง เป็นการพูดถึงอาหาร ที่เป็นเมนูพิเศษจากกัญชา ซึ่งเป็นการนำส่วนต่างๆของกัญชา ที่เหลือจากการนำไปใช้สกัดทำยารักษาโรค มาใช้ประโยชน์อีกต่อ โดยเป็นการใช้ประโยชน์ที่ถูกต้อง

จึงทำให้อยากรู้อย่างมากว่า อาหารจากกัญชา จะเป็นอย่างไร ที่มาที่ไป รวมทั้งแนวทางต่อจากนี้ จะเป็นอย่างไร

ดร.ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เล่าให้ฟัง ถึงที่มาที่ไป ของเมนูเด็ดจากกัญชา ว่า อาหารกัญชา ที่ได้มีการคิดค้นขึ้นมานี้ เป็นไปตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขได้มีการปลดล็อก โดยเฉพาะกิ่งก้านลำต้นและใบออกมาจากบัญชียาเสพติด และทางโรงพยาบาลอภัยภูเบศรได้รับอนุญาตเป็นโรงพยาบาลที่ปลูกกัญชาทางการแพทย์อยู่แล้ว เพื่อทำยารักษาโรคให้กับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้เวชภัณฑ์จากกัญชา โดยส่วนหลักแล้วได้ตัวดอกของกัญชาได้มีการทำยาแพทย์แผนปัจจุบันและส่วนรากใบใช้ทำยาแพทย์แผนโบราณ ซึ่งในส่วนตรงนี้เองยังมีใบกัญชาที่เหลืออยู่ “ จึงมีการคิดต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าให้เพิ่มขึ้น จึงมีการใช้องค์ความรู้ที่เกี่ยวกับกัญชาที่มองไปแล้วว่า สามารถที่จะนำมาปรุงอาหารได้ เพราะในองค์ความรู้เกี่ยวกับกัญชาแต่ดั้งเดิม ก็มีส่วนประกอบ ที่ใช้เป็นเครื่องชูรสอาหารอยู่แล้ว และการที่ได้นำมาเป็นเมนูอาหารก็มีการสอดแทรกความรู้เข้าไปด้วย และการจะให้ความรู้ โดยไม่มีตัวอย่าง ก็อาจจะทำให้ผู้ที่เข้ามารับชม หรือรับทราบหรือให้ความสนใจ ไม่มีต้นแบบ เราจึงได้ตำรับอาหารขึ้นมา โดยสอดแทรกให้ความรู้ ในการใช้กัญชาเช่น ควรจะใช้หรือรับประทานกัญชาในแต่ละวันจำนวนเท่าไหร่ ปริมาณจำนวนกี่ใบ และใครที่ไม่ควรรับประทานรวมทั้งวิธีการรับประทานควรจะรับประทานอย่างไร” ภญ.ผกากรอง กล่าว

สำหรับเมนูอาหารจากกัญชาที่ทางโรงพยาบาลอภัยภูเบศรได้จัดทำขึ้นมานั้น เรียกได้ว่าเป็นการคิดขึ้นมาเพื่อใช้กัญชาแทนผักที่เคยเป็นส่วนประกอบของอาหารชนิดนั้นๆ เช่นเมนูยำใบกัญชา ก็มีการตั้งชื่อว่ารื่นเริงบันเทิงยำ ซึ่งเป็นการดัดแปลงจากยำผักบุ้งมาเป็นยำใบกัญชา และกำหนดตามองค์ความรู้ให้รับประทานใน 1 วันไม่เกิน 5 ถึง 8 ใบต่อคนไม่ควรเกินจำนวนนี้ เมื่อถามถึงว่าเมนูอาหารที่ได้ทำออกมาเหมาะสมหรือผู้ป่วยควรจะรับประทานอาหารชนิดไหนเป็นพิเศษหรือไม่นั้น ภญ.ผกากรอง กล่าวว่า ในความเป็นจริงแล้วสารของกัญชานั้นมีอยู่ในร่างกายของคนเราอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า เมื่อเรามีความผิดเพี้ยน ในสารที่อยู่ในร่างกาย ตัวร่างกายก็ต้องการเติมสารจากภายนอกเข้าไป รายการที่เรานำใบมาเป็นการเติมสารเข้าสู่ร่างกายนั้น จำนวนปริมาณสารกัญชา มีปริมาณที่ไม่มากนัก ซึ่งในรายของผู้ป่วยนั้น ก็อาจจะไม่มีความจำเป็นที่ต้องรับประทาน อาหารจากกัญชาเป็นพิเศษ ซึ่งในความรู้ หรือภูมิปัญญาแต่ดั้งเดิมนั้น ใบกัญชาหรือตัวกัญชาจะมีการนำมาใช้ประโยชน์ในการร่วมปรุงเป็นอาหารเพียง 2-3 ใบเพื่อใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการ ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ หรือไม่มีความอยากอาหาร

เพราะองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพของคนไทยแต่ดั้งเดิมนั้น เป็นการตั้งมาตรฐาน ที่เป็นองค์รวม ซึ่งเป็นการมองว่า หากคนป่วยสามารถกินข้าวได้ขับถ่ายได้ก็ถือเป็นเรื่องดีจึงมีการใช้ในปริมาณที่ไม่มาก

เมื่อถามถึงเสียงตอบรับจากการออกเมนูอาหารจากกัญชาออกมานั้น ภญ.ผกากรอง กล่าวว่าได้รับเสียงตอบรับจำนวนมาก มีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากโดยส่วนตัวนั้น เชื่อว่าหลายๆคน ที่ให้ความสนใจนั้น มีความรู้สึกอยากลอง ซึ่งเป็นปกติของธรรมชาติของคนเราอยู่แล้ว และด้วยความที่ตัวกัญชาเองนั้นเคยอยู่ในบัญชียาเสพติดมานานกว่า 60 ปีจึงทำให้มีคนอยากจะลองอาหารจากกัญชา และยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจพี่มีแนวโน้มจะสามารถต่อยอดไปได้ รวมทั้งยังมีคนอีกจำนวนหนึ่ง ที่ต้องการนำกัญชา มาใช้เพื่อการรักษาสุขภาพ เพราะจากการที่ได้รวบรวมข้อมูลมานั้นพบว่ามีบางคนนำใบกัญชา ไปต้มในน้ำร้อน เพื่อดื่มแทนใบชามาแล้ว ซึ่งทำให้เขาสามารถนอนหลับสบายขึ้น จึงทำให้มีการวางแผนที่จะทำงานวิจัยตรงนี้ต่อยอดไปในอนาคตได้

ขณะที่ถามถึงการต่อยอดทางธุรกิจอาหารที่โรงพยาบาลอภัยภูเบศรมีแนวทางว่าคิดจะทำหรือไม่ ภญ.ผกากรอง กล่าวว่าก่อนหน้านี้ ทางโรงพยาบาลก็ได้มีการต่อยอดทางธุรกิจในเรื่อง ของสปาภูมิปัญญาไทย พอมาถึงเรื่องกัญชานั้นเราจึงมีความคิดว่า ประเทศไทยเรานั้น มีจุดเด่นในเรื่องอาหารกับ เรื่องท่องเที่ยว รวมทั้งเรื่องสปา ดังนั้นในส่วนของกัญชานั้นจะต้องสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของอารมณ์และจิตใจ จึงมีแนวทางที่จะจัดการอบรมโดยจะเป็นงานกัญชาระดับประเทศที่จัดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ในช่วงเดือนมีนาคมโดยให้ความรู้มากกว่าการทำอาหารแต่ให้องค์ความรู้ในความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการออกฤทธิ์ของกัญชาอีกด้วย เมื่อมีองค์ความรู้ตรงนี้แล้วผู้ที่จะนำไปทำต่อยอดทางธุรกิจก็จะมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการบริการตามฤทธิ์ของสารกัญชาที่จะออกฤทธิ์ในช่วงระยะเวลาต่างๆ การคิดคำนวณระยะเวลาการออกฤทธิ์ของสารกัญชาตั้งแต่ผู้ใช้บริการเดินเข้ามาภายในร้านระยะเวลาการทำอาหารจนกระทั่งผู้ใช้บริการเดินออกไปจนครบเวลาการหมดฤทธิ์ของสารกัญชาต้องมีการคิดคำนวณทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ แม้จะมีข้อมูลยืนยันว่าสารออกฤทธิ์ในส่วนใบกัญชานั้นมีปริมาณที่น้อยกว่าในส่วนอื่นๆแต่เพื่อเป็นการป้องกันและความปลอดภัย ในส่วนของโรงพยาบาลนั้นจึงวางแผนที่เตรียมจะทำโมเดลเนื้อเรื่องของอาหารและสปากัญชาแล้วจะนำไปถ่ายทอดความรู้ให้กับประชาชนและเอกชนภายนอกที่มีความสนใจในเรื่องนี้