พ่อแม่คาใจ ลูกสาว บัณฑิตใหม่ ตกตึกดับ ที่มาเลเซีย แต่กลับพบรอยช้ำทั่วร่าง

พ่อแม่ร้องปวีณา ลูกสาวเพิ่งเรียนจบ แต่กลับไป ตกตึก ดับ ที่มาเลเซีย คาใจ ทำไมผลชันสูตรพบว่า รอยช้ำทั่วร่าง

พ่อแม่สุดเศร้า เดินทางจาก จ.นครราชสีมา เข้าหามูลนิธิปวีณา ขอความเป็นธรรม หลัง “น้องจ๋า” ลูกสาว วัย 23 ปี ตกตึกชั้น 33 เสียชีวิตที่ประเทศมาเลเซีย

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 67 ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พาพ่อแม่น้องจ๋า เดินทางไปฟังผลชันสูตรศพหลังพ่อแม่คาใจลูกตกจากตึกสูงที่มาเลเซียเสียชีวิต เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 67 โดย พล.ต.ต.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผบก.นต. รพ.ตร. มอบหมาย พ.ต.อ.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา นายแพทย์ (สบ.5) กลุ่มงานนิติพยาธิ นต.รพ.ตร. แพทย์ผู้ผ่าชันสูตรศพน้องจ๋า ร่วมประชุมและให้ข้อมูลผลชันสูตรศพเบื้องต้น

นางปวีณา กล่าวภายหลังรับฟังผลชันสูตรเบื้องต้นจาก พ.ต.อ.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา นายแพทย์ (สบ.5) กลุ่มงานนิติพยาธิ นต.รพ.ตร. แพทย์ผู้ผ่าชันสูตรศพน้องจ๋า ว่า แพทย์ระบุผลชันสูตรเบื้องต้นพบว่า ตามร่างกายมีแผลถลอกฟกช้ำเป็นรอยครูดทั่วตัวที่คาง ไหล่ ก้น หลัง ต้นแขน และขาหนีบ ซึ่งเกิดจากการถูกของแข็งที่ไม่มีคมก่อนเสียชีวิต

แพทย์ชันสูตรศพ อธิบายว่า พบกระดูกกะโหลกด้านหลังแตก กระดูกต้นขาหัก กระดูกข้อเท้าหัก กระดูกเชิงกรานหัก กระดูกสันหลังหัก ซี่โครงซ้าย-ขวา ด้านหลังหัก อวัยวะทุกส่วนหักหมด นอกจากนี้ยังได้ตัดชิ้นส่วนตับเพื่อไปตรวจดูสารพิษ และตัดเล็บไปตรวจหาเนื้อเยื่อหรือ DNA และทำการเก็บสารคัดหลังในช่องคลอด ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจจากห้องแลปเพื่อทราบผลอย่างละเอียด

ซึ่งแพทย์ระบุว่า การผ่าตัดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากมีการผ่าพิสูจน์ครั้งแรกมาจากที่ประเทศมาเลเซียและมีการฉีดฟอร์มาลีนมาแล้ว ทำให้มีข้อจำกัดในการตรวจสารพิษ เพราะหาเลือดไม่ได้ และปัสสาวะก็ไม่มี จึงอยากให้ประสานกับตำรวจและรพ.ที่ชันสูตรศพในประเทศมาเลเซียเพื่อขอผลชันสูตรในครั้งแรกเพื่อประกอบการพิจารณาหาข้อเท็จจริงในการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของน้องจ๋าให้กระจ่าง

ขณะนี้พ่อแม่ของน้องจ๋ายังเกิดความกังขาในเรื่องรอยช้ำตามร่างกายก่อนเสียชีวิต แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลการตรวจพิสูจน์ครั้งแรกที่มาเลเซียที่จะนำมาพิจารณาร่วมด้วยว่าสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงเกิดจากสาเหตุใด

27 ม.ค. 67 เพื่อนของน้องจ๋า ติดต่อมายังมูลนิธิปวีณาฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตนเป็นเจ้าของห้องพัก ที่น้องจ๋าตกลงมาเสียชีวิต ซึ่งปกติตนอาศัยอยู่กับสามีชาวมาเลเซีย ซึ่งตนเป็นคนชวนน้องจ๋าไปเที่ยวมาเลเซีย และให้น้องไปรับจ๊อบงานพีอาร์ร้านนั่งดื่ม โดยในวันที่เกิดเหตุ ตนและสามีออกไปซื้อของข้างนอก พอกลับมาก็พบน้องจ๋า ตกตึกเสียชีวิตแล้ว พร้อมกับส่งโทรศัพท์มือถือของน้องจ๋า กลับมาให้ครอบครัว

พ่อน้องจ๋า กล่าวว่า พ่อแม่ก็เสียใจแล้วยังทำใจไม่ได้เพราะมีลูกสาวคนเดียวเพิ่งเรียนจบ ก็หวังจะเป็นเสาหลักครอบครัวและดูแลพ่อแม่ในยามชรา แต่ไม่ว่าผลการตรวจชันสูตรจะออกมาว่าอย่างไรพ่อแม่ก็ต้องทำใจ

ล่าสุดวันที่ 2 ก.พ. 67 นางปวีณาได้พาพ่อแม่ผู้เสียหาย เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อขอความช่วยเหลือและทำความจริงให้ปรากฎ พร้อมกันนี้ นางปวีณา ยังได้นำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอและภาพถ่าย ที่เพื่อนสนิทคุยกับน้องจ๋าก่อนจะเสียชีวิตและชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นกับมูลนิธิปวีณาฯ ให้เป็นข้อมูลในการสืบสวนสอบสวนขยายผล

โดยเพื่อนสนิทของน้องจ๋า ที่อยู่มาเลเซีย และเป็นเจ้าของห้องพักที่ชั้น 33 ที่น้องจ๋าตกตึกลงมา ได้โทรศัพท์มาหานางปวีณา และได้ส่งมอบโทรศัพท์มือถือของน้องจ๋า ให้กับพ่อแม่น้องจ๋า นางปวีณา จะนำไปมอบให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมให้เบอร์โทรศัพท์ และเฟชบุ๊กเพื่อนสนิทน้องจ๋า เพื่อขอข้อมูลประกอบการพิจารณาต่อไป

อีจันขอแสดงความเสียใจกับพ่อแม่น้องจ๋าด้วยนะครับ ขอให้ความจริงปรากฏโดยเร็วนะครับ


คลิปอีจันแนะนำ

’แบม ไพลิน‘ นักร้องลูกทุ่ง สู่เส้นทางนางงาม