“อธิบดีกรมการข้าว” ยัน ไม่มีเบื้องหลัง ซ้อนแผนจับ “ศรีสุวรรณ”

“อธิบดีกรมการข้าว” ยัน ไม่มีเบื้องหลัง ซ้อนแผนจับ “ศรีสุวรรณ” ชี้ ต้องล่อซื้อหลายครั้งเพราะครั้งเดียวคงจับใครไม่ได้ ต้องมีหลักฐานชัดเจนแน่นหนา

ประเด็นร้อน! หลังตำรวจ ปปป. ร่วมกับ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช.” ซ้อนแผน รวบ “นายศรีสุวรรณ จรรยา” ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน คาบ้านพัก ฐานสมคบ “เจ๋ง ดอกจิก”อดีตผู้สมัคร สส. รวมไทยสร้างชาติ” ตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว 1.5 ล้านบาท เพื่อแลกไม่เข้าร้องเรียนคดีความ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ความคืบหน้าวันนี้ (30 ม.ค.67) นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แถลงชี้แจงกรณีซ้อนแผนแจ้งจับนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน และพวกที่รีดไถเงินอ้างเพื่อยุติการสอบสวนคดีทุจริตภายในกรม ว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นนั้น ตนกับภรรยา รวบรวมข้อมูลมานานพอสมควรก่อนไปแจ้งความดำเนินคดี โดยทีมงานที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ไม่มีใครทราบเรื่องนี้ซักคน

จนวันที่ 28 พ.ย.2566 ด้วยความรำคาญใจ ตนและภรรยา จึงชวนนายหมู ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ตน ไปหานายศรีสุวรรณ ซึ่งเป็นรุ่นน้อง ม.แม่โจ้ ถึงที่บ้าน โดยให้นายหมูไปเป็นพยาน ไม่ได้ไปจ่ายเงิน และไม่ได้ไปคุยเรื่องเคลียร์เงิน แต่ไปคุยว่าผลการสอบสวนการร้องเรียนโครงการต่างๆ ออกมาแล้วตนไม่ได้ผิดอะไร จึงไปถามว่าจะเรียกร้องอะไร นายศรีสุวรรณก็ไม่ได้ตอบโต้กลับ ก่อนจะกลับบ้านมา

อธิบดีกรมการข้าว ยืนยัน ตนเป็นคนพุทธแขวนพระเต็มอก ไม่ได้โกหกอะไรแน่นอน จากนั้นนายศรีสุวรรณ ได้มาแถลงข่าวร้องเรียนเรื่องฝนหลวง และไม่ได้พบกันอีก มีเพียงภรรยาที่ไปพบเท่านั้น ยืนยันว่าการให้เงินนายศรีสุวรรณทุกครั้งนั้นเป็นการล่อซื้อที่ได้หารือกับตำรวจแล้ว

นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวอีกว่า ด้วยความคับแค้นใจ และความที่ตนเป็นคนหัวร้อน ตนกับภรรยาจึงวางแผนเพื่อไม่ให้ รมว.เกษตรฯ ต้องเดือดร้อน จึงจ้างทนายความมาสู้คดี ตายเป็นตาย ถ้าตนผิดก็ต้องถูกสอบสวน ซึ่งผลการสอบสวนก็ชี้ชัดว่าตนไม่ได้ทำผิด เมื่อนายศรีสุวรรณ ถูกจับ ทีมงานทราบภายหลัง ตนจึงโทรศัพท์ไปแจ้งให้ รมว.เกษตร ทราบและขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยท่านก็ให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายและให้กำลังใจตน

เมื่อถามว่าอดีตนักการเมืองชื่อ ป.สั่งให้เงียบ อธิบดีกรมการข้าวปฏิเสธไม่ทราบ พร้อมบอกว่า ใครจะพูดอะไรตนไม่ทราบ ต้องฟังจากปากตนเท่านั้น หลังเกิดเรื่องมีใครโทรหาตนก็ไม่รับ และไม่มีใครโทรหาภรรยาเช่นกัน ยืนยันได้ว่าโครงการต่างๆ ของกรมฯ นั้นตรวจสอบได้ทั้งหมด ทั้งนี้ไม่ทราบว่าทำไมตนถึงตกเป็นเป้า และไม่ทราบว่าเป็นการสกัดทางการเมืองหรือไม่

เมื่อถามว่า ก่อนวันที่ 28 พ.ย. 66 ที่ไปพบนายศรีสุวรรณ นั้น เจ้าตัวติดต่อเข้ามาอย่างไร นายณัฏฐกิตติ์ บอกว่า เจ้าตัวมีเรื่องร้องเรียนเข้ามามากมาย จนตนทนรำคาญไม่ไหว แต่ที่ตนทราบว่ามีการร้องเรียนถึงตนนั้น เหตุเพราะมีจดหมายร้องเรียนเข้ามา แต่จ่าหน้าซองผิด แทนที่จะเป็น รมว.เกษตรฯ กลับจ่าหน้าเป็นชื่อตน จึงรู้ที่มาที่ไปของเรื่อง ก่อนไปแจ้งความไว้ที่ สภ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา

เมื่อถามว่า ความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ม.แม่โจ้ ยังคงเดิมหรือไม่ นายณัฏฐกิตติ์ ตอบว่า หากเป็นสมัยก่อนได้โดนก้านกล้วยรอบสระแน่ ทั้งยังมีโกนหัวครึ่งซีก และอื่นๆ

เมื่อถามว่า มีการโยกย้ายงบประมาณของกรมการข้าวไปให้หน่วยงานอื่นดูแล ถือว่าผิดปกติหรือไม่ นายณัฏฐกิตติ์ ตอบว่า งบโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 15,000 ล้านบาท นั้น เป็นงบที่ไม่ได้ใช้ กรมการข้าวไม่ได้บริหารเอง จึงต้องโอนไปให้ ธ.ก.ส.บริหารจัดการต่อ ซึ่งมีมติ ครม.ออกมาแล้ว

เมื่อถามว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลังหรือไม่ อธิบดีกรมการข้าว ยืนยันว่า ไม่มีเบื้องหลัง ไม่มีเกมการเมือง ไปล่อซื้ออย่างเดียว ส่วนที่ต้องล่อซื้อหลายครั้งเพราะครั้งเดียวคงจับใครไม่ได้ ต้องมีหลักฐานชัดเจนแน่นหนา เรื่องนี้ไม่ได้ทำโดยพลการ

เมื่อถามว่ามีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ภรรยารู้เรื่องในกรมมากเกินไปหรือไม่ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้บริหาร ส่วนภรรยาอยู่หลังบ้าน


คลิปอีจันแนะนำ

ศรีสุวรรณ ยังยิ้มได้ “ทำหน้าที่นี้ต่อ ไม่หยุดหย่อน