ญี่ปุ่น ขยายสถานการณ์ฉุกเฉิน สั่งห้าม ต่างชาติเข้าประเทศ

เกินการควบคุม! ญี่ปุ่น ขยายสถานการณ์ฉุกเฉิน 7 จังหวัด พร้อมปิดประเทศ สั่งห้ามต่างชาติเข้าประเทศ โดยเด็ดขาด

ดับฝันสายเที่ยว ทริปญี่ปุ่นที่ใฝ่ฝัน เลื่อนเเล้วเลื่อนอีก โควิดก็ยังไม่ซา สถานการณ์ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ

หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่น มารายงานผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 4,527 รายและเสียชีวิต 51 รายเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2564 ทำให้ยอดผู้ป่วยทั่วประเทศเป็นเกือบ 300,000 รายโดยมีผู้เสียชีวิต 4,158 รายผู้ป่วยมากกว่า 61,500 ราย อยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศซึ่งต้องต่อสู้ เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งมาจากอุณหภูมิในฤดูหนาวที่หนาวจัด

ก่อนหน้านี้โตเกียวซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดมีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 970 รายซึ่งเป็นครั้งแรกที่ยอดรวมรายวันของเมืองหลวงของญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 1,000 รายในช่วงเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันทั้งหมดในโตเกียวขณะนี้อยู่ที่ 77,133 ราย

ขอบคุณภาพ The Straits Times



ก่อนหน้านี้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียง 3 แห่ง ได้แก่ ชิบะไซตามะและคานากาวะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์
ปัจจุบันมีทั้งหมด 11 จังหวัดที่อยู่ภายใต้มาตรการภาวะฉุกเฉิน

ล่าสุดประกาศฉบับใหม่ขยายคำสั่งซื้อไปยังโอซาก้าเกียวโตเฮียวโงะไอจิกิฟุโทชิงิและฟุกุโอกะครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะฮอนชูของญี่ปุ่นขณะนี้จังหวัดทั้งหมด 11 แห่งอยู่ภายใต้มาตรการฉุกเฉิน

คำสั่งภาวะฉุกเฉินดังกล่าวสั่งให้บริษัทต่าง ๆ ต้องให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน เพื่อลดจำนวนประชากรในสำนักงานลง 70% ขณะที่ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบควรหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านที่ไม่จำเป็น และร้านอาหารต้องหยุดให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในเวลา 19.00 น และปิดในเวลา 20.00 น. นอกจากนี้ยังขอให้สนามกีฬาและความบันเทิงในญี่ปุ่นจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม

ขอบคุณภาพ The Straits Times


ขณะเดียวกัน ในส่วนของการปิดประเทศห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติทั้งหมดเข้าประเทศเป็นการชั่วคราวนั้น ยังไม่ได้ชี้แจงว่าจะมีผลบังคับใช้เมื่อใด

โยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า "ฉันหวังว่าผู้คนจะเข้าใจว่านี่เป็นมาตรการที่ขาดไม่ได้ในการที่จะผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ เราจะทำทุกอย่างที่จำเป็นต้องทำฉันขอโทษสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นกับชีวิตของคุณด้วยข้อ จำกัด มากมาย แต่เราต้องเอาชนะสิ่งนี้ให้ได้”

เอาเป็นว่าตอนนี้หลายประเทศ คงจะเผชิญปัญหาเดียวกัน นอมถานการณ์ดีขึ้นเราจะได้ไปเที่ยวให้กำลังใจกันเเละกันเเน่นอนค่ะ

ขอบคุณภาพ The Straits Times