สลดหัวใจ ปู่ข่มขืนหลาน จนท้อง บอบช้ำหัวใจจนตาย

สลดหัวใจ เด็ก 11 ขวบ ถูกปู่เเท้ๆ ข่มขืน จนท้องนอกมดลูก บอบช้ำหัวใจจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต

เรื่องราวนี้ บอกตรงๆว่า สะเทือนหัวใจของจันมาก
การที่เด็กอายุเพียง 11 ขวบ ต้องมาเจออะไรเเบบนี้
มันหนักหนาสาหัสเกิน…เกินที่หัวใจของเธอจะรับไหว


“ลูกสาวสิ้นใจเเล้วนะคะ”

ปลายสายที่พูดปนกับเสียงร้องไห้ จากหัวใจที่บอบช้ำของคนเป็นเเม่ เธอบอกกับ พี่ปิ๊ก หรือ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา ว่าลูกสาวสิ้นใจเเล้ว จากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด พ่อของสามี หรือมีศักดิ์เป็นปู่เเท้ๆของลูกสาว เขาได้กระทำชำเราลูกสาวของเธอจนท้อง เเละท้องนอกมดลูก…ซึ่งก่อนที่น้องจะจากไป มีคำพูดที่สะเทือนห้วใจของจันมาก คือ น้องถามเเม่ว่า จับปู่ได้หรือยัง นั่นคือสิ่งที่น้องต้องการมากที่สุด ให้คนทำผิดมารับผิดชอบ!

ภาพจากอีจัน
เรื่องราวสุดสะเทือนใจนี้ เกิดขึ้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ค่ะ วันที่ 11 ม.ค.64 ค่ะ ผู้เป็นเเม่เล่าด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ให้มูลนิธิปวีณา ฟังว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 63 เธอมาทำงานที่กรุงเทพฯ ทำให้ต้องห่างกับลูกสาว วัย 11 ปี โดยเธอได้ฝากลูกสาวไว้กับตาเเละยาย ที่บ้านที่ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ขณะนั้นเป็นช่วงปิดเทอม ตากับยายต้องออกไปเกี่ยวข้าว ลูกสาวจึงไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวเลยขออนุญาต ตายายไปเล่นที่บ้าน นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นปู่เเท้ๆ บ้านอยู่ไม่ไกลกันนัก และได้กินนอนอยู่ที่บ้านปู่ย่า นานเป็นอาทิตย์ หลังจากนั้น ลูกสาว ก็กลับมาอยู่ที่บ้านตากับยาย แต่อยู่ได้เพียง 2 วัน นายเอก ผู้เป็นปู่ก็มาหาที่บ้าน ซื้อขนมมาให้และขอรับลูกสาวกลับไปอยู่ที่บ้านตนเองอีกครั้ง จนกระทั่งวันที่ 23 พ.ย.63 เด็กน้อย กลับมาที่บ้านตายาย มีสภาพที่อิดโรย เเละบอกกับตาว่า “หนูไม่ไหวเเล้ว” จบประโยค เด็กน้อยก็ อาเจียนไม่หยุดมีอาการเวียนหัวตลอดเวลา แต่ขณะนั้น เธอก็ยังไม่เล่าว่าไป เจออะไรมาทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตาจึงรีบพาไปหาหมอที่คลินิก ก็ได้ยากลับมากินและนอนพักหลายวันแต่อาการกลับไม่ดีขึ้นเลย ผ่านไป 2 อาทิตย์ อาการก็ไม่ดีขึ้น ตาจึงพาไปโรงพยาบาลประจำอำเภอ หมอเจาะเลือดไปตรวจและได้ตรวจภายใน ก็พบว่า บริเวณอวัยวะเพศมีความผิดปกติ ประกอบกับผลเลือดที่ออกมา พบว่าเด็กน้อยตั้งท้อง หมอจึงอัลตร้าซาวด์เพื่อความชัดเจน ก็ยิ่งพบความจริง เธอตั้งท้องได้ประมาณ 3-4 สัปดาห์เเล้ว ที่โหดร้ายยิ่งไปกว่านั้นคือการตั้งท้องนอกมดลูก หมอจึงให้ตาและยายรีบติดต่อแม่ให้กลับมาดูลูกสาว วันที่ 8 ธ.ค.63 เเม่รีบเดินทางจาก กรุงเทพฯ เพื่อมาดูเเลลูกสาว ภาพที่เห็นตรงหน้าบีบหัวใจแม่เหลือเกิน ลูกสาวที่คอยประคบประหงมมา ทำไมต้องเจออะไรอย่างนี้ เธอพยายามที่จะถามไถ่ ลูกสาวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เเละความจริงก็ปรากฏ เมื่อเด็กน้อยยอมปริปากเล่า ความจริงจากปากลูกสาวทำเอาหัวใจของเเม่เเทบสลาย เมื่อรู้ว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกสาวเป็นแบบนี้ คือ นายเอก พ่อของสามี ซึ่งเป็นปู่แท้ๆของลูกสาว เด็กน้อยถูกนายเอกข่มขืนระหว่างที่ไปอยู่ที่บ้าน เเละกระทำหลายครั้ง ในขณะที่ย่าไม่อยู่ ปู่ข่มขู่ไม่ให้เธอบอกใคร จนกระทั่งเธอทนไม่ไหวขอ ย่ากลับบ้านในวันที่ 23 พ.ค.63 และไม่ปริปากเล่าเรื่องนี้ให้กับใครฟัง เรื่องราวบานปลายมาถึงตอนนี้ หมอ ระบุความเห็นว่าถึงแม้เด็กจะยังไม่มีประจำเดือนมาก่อน แต่ก็เป็นช่วงที่ไข่ตกเมื่อถูกกระทำจึงตั้งท้องได้ ก่อนแจ้งให้แม่ทราบว่าควรจะต้องยุติการตั้งท้อง เพราะอาจจะเป็นอันตรายกับตัวเด็กน้อยเอง ลูกสาวอาการหนักถึงเพียงนี้ผู้เป็นแม่ ยอมไม่ได้ที่ปู่แท้ๆจะมากระทำกับหลานตัวเองอายุแค่ 11 ปี แม่จึงไปแจ้งความที่ สภ.สหัสขันธุ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อต้องการดำเนินคดีกับปู่ให้ถึงที่สุด โดยตำรวจได้มีการนัดสอบสหวิชาชีพ ซึ่งเด็กน้อยก็ยืนยันชัดเจนว่า ถูกปู่ข่มขืนหลายครั้งระหว่างที่ไปอยู่บ้านปู่กับย่า และเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะต้องรอผลแพทย์พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งตนเกรงว่าคดีอาจจะล่าช้า จึงร้องทุกข์มายังมูลนิธิปวีณาฯ อีกทางหนึ่ง เพื่อทวงความยุติธรรมให้ลูกสาว หลังรับเรื่อง นางปวีณา ก็รีบประสาน พ.ต.อ.วิชัย ทองคำ ผกก.สภ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขอให้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายเอก เเต่ก่อนคนผิดจะได้รับโทษ ผู้เป็นเเม่ก็ต้องเศร้า เมื่อลูกสาวทนไม่ไหว จากไปเเบบไม่มีวันหวนกลับ เเต่ก่อนที่จะจากไป ลูกสาวได้ทิ้งคำถาม ที่สะเทือนหัวใจไว้ ว่า “ตำรวจจับมันได้รึยัง” ซึ่งเเม่เอง ก็ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร ได้เเต่ถามอาการของลูก ด้วยความเป็นห่วง “แม่หนูหิวทำอะไรให้หนูกินหน่อย” จบประโยค เเม่ก็รีบกุลีกุจอ ทำโจ๊กให้ลูกกิน พอกินเสร็จ เด็กน้อยก็ขอนอนพัก และหลังจากนั้นก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย… ล่าสุด วันนี้ (15 ม.ค.64) ครอบครัวเด็กน้อยก็ได้รับข่าวดี เมื่อ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สหัสขันธ์ เข้าจับกุมนายเอก พร้อมนำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจ โดยเบื้องต้น นายเอก ยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืนหลานสาว แต่รักเเละเอ็นดูหลานเพียงเท่านั้น
ภาพจากอีจัน
แต่สิ่งที่ นายเอกอ้างกลับตรงข้ามกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมี ประกอบกับผลตรวจร่างกายของเด็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุ ไม่เกิน 13 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย และจะทำการสอบปากอย่างละเอียดอีกครั้ง